Fi Asia 2022 เทรนด์อาหารแห่งอนาคต ธุรกิจต้องปรับกลยุทธ์เพื่อคว้าโอกาส
Fi Asia 2022 เวทีแสดงสินค้าอุตสาหกรรมส่วนผสมอาหาร-เครื่องดื่ม กับเทรนด์อาหารทั่วโลก ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม ธุรกิจ และวิถีชีวิตผู้บริโภค
ยกทัพนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคตทั่วโลกมาไว้ที่ประเทศไทย กับงาน “ฟู้ด อินกรีเดียนส์ เอเชีย ประเทศไทย 2022 หรือ Food ingredients (Fi Asia 2022)” เวทีแสดงสินค้าอุตสาหกรรมส่วนผสมอาหารและเครื่องดื่มและการประชุมนานาชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมอาหารไทย ภายในงานมีทั้งการนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหาร เทคโนโลยีอาหาร พร้อมการเจรจาธุรกิจ
นอกจากนี้ ยังมีการร่วมเสวนาโดยทางผู้ประกอบการอาหาร ในหัวข้อ “Food and Packaging Safety : Thailand - Japan in Perspective” และการสัมมนา InnoFood Academe 2022 : Novel Food : เปิดมุมมอง สร้างโอกาส ด้วยอาหารนวัตกรรมใหม่ เพื่อเสริมแกร่งผู้ประกอบการ นำไปสู่การต่อยอดงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้มั่นคงและยั่งยืนด้วย วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม
ทางกรุงเทพธุรกิจจึงรวบรวมตัวอย่างนวัตกรรมอาหารจากงาน Fi Asia 2022 ไว้ในประเด็นดังนี้
- เทรนด์อาหารปี 2023 ขานรับ ‘Healthy-Safety-Save the Earth’
- Food for Your Mood : เศรษฐกิจสุขภาพจิตทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 120,800 ล้านดอลลาร์ โดยกลุ่มสารอาหารที่ส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทและสมอง (Brain-Boosting Nutraceuticals) มีสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 3
- Good for Gut : ผลิตภัณฑ์พรีไบโอติกส์ (Prebiotics) และโพรไบโอติกส์ (Probiotics) มาแรงในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม
- Eating Experience : ผู้บริโภคโหยหาประสบการณ์ใหม่ จากอาหารและเครื่องดื่ม มีความคาดหวังที่จะหลุดจากกรอบเดิม ๆ ทั้งในมิติของรสชาติ กลิ่น สี รสสัมผัส ไปจนถึงแพ็คเกจที่แปลกใหม่
- Upcycling and Sustainable Foods : ไม่ใช่แค่ความอร่อยที่ปลายลิ้น แต่กระบวนการผลิต ความรับผลิตชอบต่อแรงงาน ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของการปลูกและปศุสัตว์ การปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิต ไปจนถึงแพคเกจก็เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคใส่ใจ
- Food Subscription : ตลาด Personalized Food เติบโตเฉลี่ยปีละ 14.2% โดยเฉพาะโมเดลบริการจัดส่งอาหารออแกนิคเฉพาะบุคคล ที่จัดสัดส่วนของอาหารให้ตรงตามกับเป้าหมายทางด้านสุขภาพ
- Immunity Balance : อาหารที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องช่วยเติมเต็มความต้องการสารอาหาร ที่จะช่วยเสริมให้ระบบภูมิคุ้มกันที่ถดถอยสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ปกป้องร่างกายจากความเจ็บป่วยได้
- 50 Shades of Milk : ผู้บริโภคต้องการเห็นความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ non-dairy มากขึ้น โดยนมในกลุ่ม ผลิตภัณฑ์ทางเลือกอย่างถั่วที่รวมถึงอัลมอนด์ มะม่วงหิมพานต์ ข้าวโอ๊ต ธัญพืชและเมล็ดพืชต่าง ๆ
- Digitalization : ผู้ผลิตอาหารต่างประเทศตื่นตัวอย่างมากในการนำ Machine Learning จาก AI และ Big DATA มาใช้เพื่อช่วยให้สามารถระบุกลุ่มเป้าหมายและคู่แข่ง ตลอดเข้าใจแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในตลาด
- Fantastic “Protein” and where to find them : โอกาสของแหล่งโปรตีนใหม่ ๆ เช่น โปรตีนจากแมลง พืช
- นวัตกรรม “กินดี อยู่ดี สุขภาพดี”
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) นำผลงานนวัตกรรมด้านอาหาร ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสารสกัดจากธรรมชาติ ได้แก่ อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์เสริมโพรไบโอติก นวัตกรรมผลผลิตทางการเกษตร มาจัดแสดง
ยกตัวอย่างเช่น ข้าวผสมซีรีเนียม การเพิ่มปริมาณสังกะสีในกระบวนการปลูกข้าวโพดหวานและพริก รวมทั้งบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ เช่น กล่องล็อกกลิ่นทุเรียน 100% บรรจุภัณฑ์จำหน่ายมะม่วงออนไลน์ เทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงสาหร่ายที่นำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ
เทคโนโลยีของ วว. มีความโดดเด่นด้านระบบการเพาะเลี้ยงสาหร่ายระดับขยายกลางแจ้งต้นแบบ ตั้งแต่ขนาด 100-40,000 ลิตร เป็นระบบการเพาะเลี้ยงแบบต่อเนื่องและครบวงจร ปริมาตรรวม 400,000 ลิตร ที่พร้อมให้บริการแก่ภาคอุตสาหกรรม
- พฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความ “เป็นเมือง” มากขึ้น
อภิรักษ์ โกษะโยธิน ประธานกรรมการบริหารบริษัท วีฟู้ดส์ จำกัด (V Foods) ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ข้าวโพด น้ำนมข้าวโพด และอาหารสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ “วี คอร์น” (V Corn) และ “วี ฟาร์ม” (V Farm) กล่าวว่า วีฟู้ดส์ก่อตั้ง 9 ปี มีกลยุทธ์คือ การศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค เพราะมันจะมีการเปลี่ยนแปลงไปแต่ละยุค และก็ดูเทรนด์ทิศทางของโลก พบว่า เทรนด์โลกมีความเป็นเมืองมากขึ้น
หมายความว่า อาหารการกินจะสะดวกต่อการซื้อ 24 ชั่วโมง สั่งเดลิเวอรี่ผ่านมือถือได้ คนจะให้สำคัญกับสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณการทำปศุสัตว์ ลดบริโภคเนื้อ ทว่า สิ่งที่สำคัญคือ “ความเป็นเมืองจะทำให้คนเกิดโรคในกลุ่ม NCDs มากขึ้น”
เนื่องจากอาหารที่บริโภคเข้าไปเกิดผลเสียต่อสุขภาพที่ตามมา ดังนั้น การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพจะสำคัญมากขึ้น ทั้งนี้ ประเทศไทยมีจุดแข็งด้านภาคการเกษตร แต่ยังต้องอาศัยการนำเข้าวัตถุดิบต่าง ๆ จากต่างประเทศ ทำให้การขับเคลื่อน “อาหารทางเลือก หรือโปรตีนจากพืช (Plant Besed) เป็นสิ่งที่ค่อนข้างสวนทางกันอยู่”
นอกจากนี้ ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญกับความยั่งยืน (ESG) หรือการดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบต่อสังคม และมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ โดยธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม มักถูกกล่าวหามาตลอดว่าเป็นตัวการหลักทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ทำลายสิ่งแวดล้อมและทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ฉะนั้นกระบวนการผลิตสินค้าจะต้องมีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ (Food Journey)
- คลื่นลูกใหม่ช่วยขับเคลื่อนอาหารแห่งอนาคต
วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา ประธานสมาคมสมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย (TFA) กล่าวว่า สมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย เปิดตัวเมื่อปลายเดือนกันยายน 2565 เป็นการรวมตัวผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการอาหารเพื่อขับเคลื่อนคลื่นลูกใหม่ สำรวจเทรนด์ของโลกที่เปลี่ยนไป ใช้เป็นข้อมูลมาพัฒนาอาหารภายในประเทศ
โดยมีกลุ่มเป้าหมายได้แก่ กลุ่มคนรักสุขภาพ กลุ่มคนกินเจ ตลอดจนกลุ่มผู้สูงอายุ ทั้งนี้ ได้เจาะลึกประเภท โปรตีนทางเลือก (Alternetive Protien) อาทิ เนื้อเทียมที่เพาะในห้องแล็บ ซึ่งต้องขอทดลองในห้องแล็บ ไทยยังไม่อนุญาต แต่สิงคโปรอนุญาตแล้ว จึงเป็นสิ่งที่ต้องชวนกันขับเคลื่อนต่อไป
นอกจากนี้ก็มีแพลนท์เบสโปรตีน อีกตัวที่ไทยสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ดีคือ โปรตีนที่มาจากแมลง เพราะไทยมีระบบนิเวศที่เหมาะสมกับการเลี้ยงแมลง สามารถสร้างเส้นใยในโปรตีนได้
“การเกิดขึ้นของสมาคมฯ เพราะเราต้องการทำให้แพลนท์เบสหรืออาหารเพื่อสุขภาพให้ถูกพูดถึงมากขึ้น ทั้งด้านของการทำให้ประชาชนเข้าใจถึงประโยชน์ และในด้านการช่วยขับเคลื่อนให้ไทยสามารถเป็นประเทศที่ผลิตวัตถุดิบที่นำมาใช้กับแพลนท์เบสได้เองโดยไม่ต้องอาศัยการนำเข้าจากประเทศอื่น” วิศิษฐ์ กล่าว
ส่วนด้านนโยบาย คือ การทำให้รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญและทำให้เกิดเงินทุนสนับสนุนแก่เกษตรกรที่สร้างผลผลิต วัตถุดิบภายในประเทศ ทางด้าน วีรวัฒน์ เลิศวนวัฒนา ประธานกรรมการบริหารบริษัท สยาม มอดิฟายด์ สตาร์ช จำกัด กล่าวว่า สิ่งที่ท้าทายของอาหารแพลนท์เบสคือเรื่องของรสชาติ และผิวสัมผัส จะทำอย่างไรให้มีความใกล้เคียงเนื้อสัตว์ของจริงมากที่สุด แต่เชื่อว่าคนไทยสามารถทำได้ เพราะคนไทยมีความคิดสร้างสรรค์