ChatGPT หมุดหมายสำคัญของเอไอ | ธราธร รัตนนฤมิตศร
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั่วโลกกำลังตื่นเต้นกับการเปิดตัวของ ChatGPT ซึ่งเป็นแชทบอตเอไอที่เปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้ทดลองใช้ ซึ่งสามารถให้คำตอบต่างๆ กลับมาได้ดีมาก
ทั้งการให้เขียนบทความ บทภาพยนตร์ บทละคร วิเคราะห์เปรียบเทียบแนวคิด เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ สอนเนื้อหาวิชาต่างๆ การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แต่งเพลง และแปลภาษา
นับเป็นครั้งแรกที่ระบบปัญญาประดิษฐ์ที่เปิดให้คนทั่วไปใช้ ได้ให้ผลลัพธ์ออกมาอย่างน่าทึ่ง จนเราน่าจะสามารถนำ ChatGPT มาเป็นผู้ช่วยงานได้ เหมือนที่เคยเห็นกันในภาพยนตร์ไซไฟต่างๆ
ChatGPT คืออะไร? ChatGPT คือ รูปแบบการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) ที่พัฒนาโดย OpenAI โดยออกแบบมาเพื่อสร้างข้อความที่เหมือนกับมนุษย์ สามารถตอบสนองต่อการป้อนข้อมูลหรือคำขอของผู้ใช้ และเป็นเอไอที่ได้รับการฝึกจากชุดข้อมูลขนาดใหญ่ของข้อความจากอินเทอร์เน็ต
จุดแข็งของ ChatGPT ที่เด่นชัดคือ ความสามารถในการสร้างข้อความที่เหมือนมนุษย์เมื่อตอบคำถามต่างๆ ของเรา ทำให้มีประโยชน์สำหรับการใช้งานที่หลากหลาย โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวกับการสร้างสรรค์เนื้อหา การวิจัย การศึกษา สื่อมวลชน และการเขียนโปรแกรม (programming)
ผู้เขียนได้ทดลองให้ ChatGPT เขียนบทสนทนาระหว่างนักคิด 3-4 คนที่อยู่คนละยุคสมัย หรือให้สรุปประวัติศาสตร์และพัฒนาการของเรื่องต่างๆ ในประเทศต่างๆ พร้อมกับเปรียบเทียบระหว่างประเทศ ChatGPT ก็ทำงานต่างๆ ออกมาได้อย่างน่าทึ่งและน่าค้นคว้าต่อ
ผู้เขียนเห็นว่าประเด็นสำคัญของการใช้ประโยชน์ของ ChatGPT ให้เกิดประโยชน์น่าจะขึ้นกับ “ความสามารถในการตั้งคำถามของผู้ใช้” ซึ่งหากสามารถตั้งคำถามได้อย่างสร้างสรรค์และลึกซึ้ง ChatGPT ก็จะช่วยสร้างคำตอบที่เฉพาะเจาะจงออกมาได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ “การมีวิจารณญาณในการแยกแยะความจริง ความคิดเห็นและอคติ” ที่ได้รับการคำตอบของ ChatGPT ก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ซึ่งหากสามารถใช้อย่างเหมาะสมก็น่าจะนำมาช่วยผ่อนแรงของงานในหลายด้านได้
ทั้งนี้ จุดอ่อนประการสำคัญของ ChatGPT ซึ่งมีเหมือนโมเดลเอไอที่ใช้แนวทางแมชชีนเลิร์นนิง คือ หากข้อมูลการฝึกเอไอมีอคติหรือไม่สมบูรณ์ แบบจำลองอาจสร้างผลลัพธ์ที่มีอคติหรือไม่ถูกต้องเช่นกัน
เราสามารถใช้ ChatGPT หรือเอไอรูปแบบนี้ในหลายด้าน เช่น การให้บริการลูกค้า ที่สามารถสร้างแชทบอตหรือผู้ช่วยเสมือนให้สามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้ดีกว่าแชทบอตที่ผ่านมา
ในด้านการแปลภาษา น่าจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจระหว่างประเทศและการท่องเที่ยว ในด้านการสร้างเนื้อหา สามารถสร้างบทความ ร่างข้อเสนอ หรือโพสต์บนโซเชียลมีเดียให้ได้
และในด้านการศึกษา นักเรียนสามารถใช้ ChatGPT อธิบายเนื้อหาแนวคิดที่เข้าใจยากอย่างง่ายๆ สรุปประเด็นจากหนังสือ หรือแนะนำแหล่งการเรียนที่เหมาะสมกับตนได้
อย่างไรก็ตาม เอไอยังอาจทำให้เกิดภัยคุกคามได้ โดยการใช้เอไอและระบบอัตโนมัติที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมต่างๆ อาจนำไปสู่การเลิกจ้างงาน โดยเฉพาะงานที่สามารถทำงานอัตโนมัติได้ง่าย
นอกจากนี้ยังมีปัญหาจากอคติและการเลือกปฏิบัติ ที่เอไออาจให้ผลลัพธ์ที่มีอคติซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาสังคมต่างๆ และปัญหาการใช้เอไอในทางที่ผิด เช่น การใช้ ChatGPT สร้างข่าวปลอมหรือการเผยแพร่ข้อมูลที่ผิด
ในปัจจุบัน เริ่มมีการพูดคุยกันถึงผลกระทบของ ChatGPT ต่ออนาคตของการศึกษาและงาน เนื่องจากเอไอกำลังพัฒนาอย่างก้าวกระโดด มีเม็ดเงินลงทุนจำนวนมหาศาลและผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากได้เข้าไปสู่วงการเอไอ
ซึ่งในหนังสือ AI 2041 ได้วาดภาพอนาคตในช่วงประมาณ 20 ปีข้างหน้าไว้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ และสะท้อนว่าเอไอจะพัฒนาจากปัจจุบันไปอีกมาก
และด้วยอัตราเร่งในด้านการศึกษา ChatGPT น่าจะมีศักยภาพในการปฏิวัติวิธีการเรียนรู้ของนักเรียน ตัวอย่างเช่น นักเรียนสามารถใช้ ChatGPT เพื่อสร้างระบบการสอนส่วนตัวที่สามารถให้ข้อเสนอแนะแบบเรียลไทม์และสนับสนุนนักเรียนตลอดกระบวนการเรียนรู้
ซึ่งจะช่วยปรับปรุงผลลัพธ์ของนักเรียนและเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการเรียนรู้ได้ แต่หากนักเรียนใช้ ChatGPT ช่วยทำการบ้านให้ ช่วยเขียนรายงานให้ โดยไม่ได้ฝึกคิด หรือไม่ได้เกิดกระบวนการเรียนรู้ภายใน ก็อาจบั่นทอนความสามารถของนักเรียนได้
เป็นที่ชัดเจนว่าโลกอนาคตที่ซับซ้อนขึ้นนั้น เป็นโลกที่มนุษย์จะต้องทำงานร่วมกันเป็นทีม สิ่งที่เพิ่มขึ้นไปอีกคือความสามารถในการทำงานร่วมกับเอไอได้อย่างคล่องแคล่ว ทักษะการทำงานร่วมกันของมนุษย์ โดยเฉพาะ Soft skill ยังคงเป็นทักษะที่สำคัญต่อไป
ส่วนการทำงานร่วมกับเอไอนั้น มนุษย์ก็ยังจำเป็นต้องมีทักษะ Hard skill เพื่อสั่งให้เอไอประมวลผลและแก้ปัญหาตามที่มนุษย์ต้องการ รวมทั้งทักษะการริเริ่ม ในการจะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ หรือสร้างงานต่างๆ ซึ่งในเอไอในอนาคตอันใกล้ยังไม่สามารถทำได้
ChatGPT ยังเป็นเรื่องที่ใหม่ ดูมีศักยภาพสูง แม้จะยังไม่ใช่ตัวเอไอที่สมบูรณ์ที่สุด แต่ก็นับเป็นหมุดหมายที่สำคัญของพัฒนาการด้านเอไอ ประเด็นที่เราควรร่วมกันสำรวจต่อไปก็คือ เราจะใช้ ChatGPT หรือเอไอในอนาคตอย่างไร ให้เกิดประโยชน์ในแวดวงต่างๆ เพื่อช่วยให้เราก้าวผ่านไปสู่สังคมที่เจริญก้าวหน้าขึ้น
พร้อมกันนั้น เราจะสร้างช่องทางให้ผู้คนทั้งหมดเข้าถึงเทคโนโลยีที่ก้าวหน้านี้อย่างเท่าเทียมและทั่วถึงได้อย่างไร ทำอย่างไรเราจะอยู่ร่วมกันกับเอไอได้อย่างรู้เท่าทัน ไม่หวาดกลัว
และลดผลกระทบทางลบจากการใช้ในทางที่ผิดให้น้อยที่สุดได้ และประเด็นที่สำคัญที่สุดที่เราจะต้องทบทวนโดยเฉพาะสำหรับเด็กรุ่นใหม่ก็คือ อะไรเป็นสิ่งที่เราในฐานะมนุษย์ทำได้ดีกว่าปัญญาประดิษฐ์