โลกในปี 2030 จะเป็นอย่างไร | พสุ เดชะรินทร์
ถึงจะเพิ่งขึ้นปีใหม่ 2023 แต่สื่อหลายๆ แห่งในต่างประเทศก็ได้มองไกลออกไปอีก 7 ปีล่วงหน้าถึงปี 2030 กันแล้ว และเริ่มคาดการณ์ว่าจากสิ่งต่างๆ ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน การดำรงชีวิตในปี 2030 จะเป็นอย่างไร
การมองภาพไปในอนาคตอีก 7 ปีข้างหน้า จะช่วยให้ผู้บริหารได้ทบทวนว่าสำหรับกลยุทธ์ที่จะมุ่งต่อไปในอนาคตนั้นควรจะเป็นอย่างไร ดังนั้น มาดูความคิดเห็นของบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกอย่าง Mckinsey ซึ่งได้ไปรวบรวมความคิดเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ว่าพวกเขามองว่าชีวิตในปี 2030 จะเป็นอย่างไรบ้าง
ทาง McKinsey ก็ออกตัวไว้ก่อนว่าสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญมองเห็นอาจจะผิดพลาดได้ แต่ก็ยังเชื่อว่าทั้งหมดนี้จะเป็นเรื่องปกติภายในปี 2035
1. การท่องเที่ยวนอกโลกจะกลายเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะเป็นการนอนในโรงแรมในอวกาศ หรือ สุดสัปดาห์บนดวงจันทร์ เนื่องจากต้นทุนในการปล่อยจรวดขึ้นไปในอวกาศนั้นลดลง
2. แท็กซี่ EV ที่บินได้ จะเป็นเรื่องปกติ และต้นทุนจะไม่ต่างจากแท็กซี่ปกติ อีกทั้งยังเงียบและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยานพาหนะในลักษณะนี้มีชื่อเรียกขานกันว่า eVTOL (Electric Vertical Take-Off and Landing) อ่านว่าอีวีโทล เป็นยานพาหนะ EV ที่สามารถขึ้นลงในแนวดิ่ง
ในปี 2030 คาดว่า eVTOL จะกลายเป็นพาหนะปกติที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าภายในรัศมีไม่เกิน 100 ไมล์ และ eVTOL นี้มีทั้งแบบมีคนขับและไร้คนขับ
3. บรรจุภัณฑ์และภาชนะต่างๆ ทั้งกล่อง ขวด และ ถุง จะกลายเป็น Smart และ Sustainable เช่น ขวดนมมีเซนเซอร์ที่สามารถวัดและระบุได้ว่านมหมดอายุหรือไม่ หรือ ถุงบรรจุขนมที่เมื่อทานหมดแล้วสามารถนำถุงมาใช้ได้ใหม่หรือบริโภคถุงดังกล่าวได้เลย
4. โดรนจะเป็นช่องทางหลักในจัดส่งสินค้า โดยคาดว่าในปี 2030 จะมีพัสดุภัณฑ์ไม่ต่ำกว่า 200 (พันล้าน) ชิ้นที่ถูกจัดส่งโดยโดรน นอกจากนี้ในบางเมืองที่มีประชากรอยู่อย่างหนาแน่นช่องทางการขนส่งก็อาจจะผ่านทางใต้ดินที่พาหนะอัตโนมัติสามารถส่งสินค้าจากศูนย์กระจายสินค้าถึงชั้นใต้ดินของที่พักได้เลย
5. สื่อบันเทิงจะเป็นในลักษณะโต้ตอบและเน้นปฏิสัมพันธ์มากขึ้น ภาพยนตร์จะเป็นเสมือนเกมมากขึ้น และสามารถดูภาพยนตร์พร้อมๆ กับเล่นเกมกับเพื่อนไปได้พร้อมๆ กัน ถึงแม้อยู่กันคนละสถานที่ การชมภาพยนตร์จะมีความเสมือนจริงมากขึ้น เช่น ในฉากฤดูหนาว ก็จะมีลมเย็นพัดออกมา ให้ผู้ชมรู้สึกเย็นไปด้วย
6. อุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมโยงกัน จะติดตามและให้คำแนะนำในเรื่องของสุขภาพและความเป็นอยู่มากขึ้น ตู้เย็นจะสามารถให้คำแนะนำได้ว่าควรจะรับประทานอะไรหรือดื่มอะไร โดยใช้ข้อมูลจากพฤติกรรมในการนอน ออกกำลังกาย หรือ รับประทาน จากอุปกรณ์ต่างๆ รอบๆ ตัว
7. ตึกหรืออาคารรูปแบบใหม่จะเป็นลักษณะของ Mixed-Use หรือผสมผสานมากขึ้น เช่น ในตึกๆ เดียวจะมีทั้งห้องพักอาศัย ออฟฟิศทำงาน ห้องพักโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ยิม ฯลฯ ดังนั้น ผู้ที่อยู่อาศัยในอาคารสูงยุคใหม่จะสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ในตึกได้อย่างสะดวกสบายขึ้น
8. การช้อปปิ้งในอนาคตจะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เมื่อเดินเข้าไปในห้าง เสื้อผ้าบนหุ่นโชว์จะปรับเปลี่ยนตามสไตล์การแต่งตัวของแต่ละคน พนักงานขายสามารถดึงประวัติการซื้อของลูกค้าแต่ละคน และให้คำแนะนำสินค้าตามประวัติการซื้อในอดีต
9. ทางเลือกในการซื้อรถยนต์จะเปลี่ยนไป ทั้งสามารถเลือกซื้อรถยนต์เป็นคันๆ แบบเดิมหรือเลือกสมัครสมาชิกเพื่อเข้าสามารถใช้รถยนต์ได้หลายรุ่น หลายยี่ห้อ แทนที่จะเป็นเจ้าของรถและใช้รถอยู่ประเภทเดียว ลูกค้าสามารถซื้อแพ็คเก็จได้ว่าในวันไหนของสัปดาห์จะเลือกใช้รถประเภทไหน
ภาพทั้ง 9 ภาพข้างต้นเป็นการคาดการณ์จากบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่ทาง McKinsey ได้รวบรวมไว้ ซึ่งก็ต้องดูกันต่อไปว่าทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นในช่วงปี 2030 หรือไม่ แต่ขณะเดียวกันถ้าธุรกิจของท่านเกี่ยวข้องกับภาพทั้ง 9 ภาพข้างต้น ก็จะต้องเริ่มคิดแล้วบริษัทของตนเองจะต้องปรับตัวอย่างไรบ้าง