“ไทย - ฝรั่งเศส” จับมือเปิดงาน “ปีแห่งนวัตกรรมฝรั่งเศส-ไทย 2023” พร้อมโชว์การแสดงจากโดรน
ผู้แทนรัฐบาลไทย และ ฝรั่งเศส ร่วมเปิดงาน “ปีแห่งนวัตกรรมฝรั่งเศส-ไทย 2023” อย่างเป็นทางการ โดยภายในงานมีนิทรรศการต่าง ๆ มากมาย พร้อมด้วยคอนเสิร์ตจาก “ส้ม-มารี” และ การแสดงพิเศษจากอากาศยานไร้คนขับสุดประทับใจ
เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของไทย และ ออลีวีเย แบ็ชต์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกิจการยุโรปและการต่างประเทศของฝรั่งเศส พร้อมด้วย ตีแยรี มาตู เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย, ผศ.ดร. ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รวมถึง ปิแอร์ อองเดรย์ ประธานกรรมการแอร์บัสประจำประเทศไทย และเครือข่ายพันธมิตรจากภาคส่วนต่าง ๆ ร่วมพิธีเปิด “ปีแห่งนวัตกรรมฝรั่งเศส-ไทย 2023” อย่างเป็นทางการ ณ สวนเบญจกิติ กรุงเทพฯ
ออลีวีเย แบ็ชต์ ในฐานะเป็นผู้แทนรัฐบาลฝรั่งเศส กล่าวสรุปถึงความเป็นมาของโครงการที่ตั้งเป้าหมายให้ปีนี้เป็นปีแห่งนวัตกรรมของทั้งสองประเทศ เพื่อยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกันภายในปีหน้า
ขณะที่ ตรีนุช เทียนทอง ผู้แทนรัฐบาลไทย กล่าวภายในพิธีเปิดว่า ไทยและฝรั่งเศสต่างดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างกันมาอย่างยาวนานในหลายมิติ และงานครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้ยิ่งแน่นแฟ้นและก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น
ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะเน้นย้ำให้ทุกคนได้เห็นความสำคัญของนวัตกรรม โดยเฉพาะงานด้านอวกาศที่ได้ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้แก่กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้อย่างมาก และ ประเทศไทยตั้งเป้าหมายติด 30 อันดับแรก ในฐานะประเทศแห่งนวัตกรรมให้ได้ภายในปี 2573 ซึ่งประเทศฝรั่งเศสจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายดังกล่าว พร้อมมุ่งสู่อนาคตที่ดียิ่งขึ้นร่วมกัน
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการเสวนากับ ดร.โกลดี แอเญอเร และ พล.อ. ฌอง-ปิแอร์ แอเญอเร นักบินอวกาศชาวฝรั่งเศส ดำเนินรายการโดย ณัฐนนท์ ดวงสูงเนิน บรรณาธิการบริหารสื่อออนไลน์ Spaceth.co รวมถึงการฉายภาพยนตร์สารคดีเรื่อง “16 Sunrises” ที่เล่าถึงความเป็นมาของความสัมพันธ์ระหว่างไทยและฝรั่งเศสในด้านงานอวกาศ
ตลอดจน มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส “ส้ม-มารี” เจ้าของเพลงฮิตมากมาย อีกทั้งยังมีการแสดงนิทรรศการและออกบูธจากหน่วยงานด้านอวกาศ การศึกษา ภาษา วัฒนธรรมจากประเทศไทยและฝรั่งเศส ไม่ว่าจะเป็น Airbus ที่มีให้ลองฝึกเครื่องบินจำลอง, มิชลิน ผู้นำด้านยานยนต์และอาหาร ที่มีกิจกรรมมาให้ร่วมสนุก ส่วนหอการค้าฝรั่งเศสนั้นมีกิจกรรมตู้ถ่ายรูปให้ได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
ขณะที่ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NARIT จัดกิจกรรมดูดาว ให้ผู้เข้าชมงานได้ชมดวงจันทร์และดาวพฤหัส อีกหนึ่งบูธที่สร้างความสนใจให้แก่ผู้ชมได้อย่างดี คงจะหนีไม่พ้นบูธจากมูลนิธิอ็องตวน เดอ แซ็งแตกซูว์เปรี เพื่อเยาวชน ที่ร่วมเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 80 ปี นวนิยายชื่อดังของฝรั่งเศสอย่าง “เจ้าชายน้อย” (Le Petit Prince) โดยได้จัดแสดงหนังสือเจ้าชายน้อยในภาษาถิ่นของไทย และผ้ามัดหมี่พิมพ์ลายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเจ้าชายน้อย รวมไปถึงหุ่นเจ้าชายน้อยจาก L’Envol Art Space ร้านคาเฟ่ที่จัดแสดงงานปั้นตามเนื้อเรื่องของเจ้าชายน้อย
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของงาน คือ การแสดงฝูงอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน สุดอลังการ ที่บริเวณ สกายวอล์ค ในสวนเบญจกิติ ที่แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมสุดไฮเทคทั้งในด้านเทคโนโลยีและอวกาศของไทยและฝรั่งเศส โดยได้นำเอาจุดเด่นของทั้ง 2 ชาติ ไม่ว่าจะเป็น พระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หอไอเฟล วรรณกรรมสุดคลาสิคเจ้าชายน้อย เป็นต้น ก่อนที่จะจบลงด้วยคำว่า “Innovation” และธงชาติของทั้ง 2 ประเทศ
ภาพโดย: ศุกร์ภมร เฮงประภากร