ร้านซูชิ Kura ในญี่ปุ่น เริ่มติดกล้อง AI บนสายพาน ป้องกันลูกค้าพฤติกรรมแย่
Kura Sushi ร้านซูชิสายพานรายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น เริ่มใช้เทคโนโลยี AI ติดตั้งกล้องที่มีระบบเซ็นเซอร์บนสายพานขนส่งซูชิ เพื่อตรวจจับพฤติกรรมน่าสงสัยของลูกค้า และป้องกันอย่างทันท่วงที
จากกรณีคลิปวิดีโอเด็กวัยรุ่นชายชาวญี่ปุ่นใช้น้ำลายตัวเองป้ายลงบนซูชิและเลียขวดซอสถั่วเหลือง ในร้านซูชิสายพาน “Kura Sushi” เมื่อต้นปี 2566 ทำให้เกิดเสียงวิพากวิจารณ์จากสื่อสังคมเป็นจำนวนมาก ลูกค้าหลายรายชี้แจงว่า ตนเองจะไม่ไปรับประทานซูชิสายพานอีก ทำให้ผู้ประกอบการซูชิสายพานหลาย ๆ ร้านเกิดความเสียหาย
ทั้งนี้ ร้าน Kura Sushi ผู้ประกอบการร้านซูชิสายพานรายใหญ่ในญี่ปุ่น จึงเปลี่ยนระบบใหม่โดยติดตั้งกล้องที่มี AI คอยตรวจจับสัมผัสและพฤติกรรมแปลกปลอมไว้บนสายพาน เพื่อคอยตรวจจับหากลูกค้ามีพฤติกรรมที่น่าสงสัย จะได้ป้องกันลูกค้ารายอื่น ๆ อย่างทันท่วงที
เมื่อก่อนทางร้านได้ติดตั้งกล้องแบบเดิมอยู่แล้ว ซึ่งเป็นกล้องวงจรปิดที่ไม่มีระบบเซ็นเซอร์จากเอไอที่ช่วยระบุพฤติกรรมน่าสงสัยได้ การทำงานของกล้องจะแจ้งเตือนหากพบว่ามีใครแสดงพฤติกรรมน่าสงสัย เช่น การคืนจานที่หยิบออกมาแล้วไปที่สายพานอีกครั้ง เป็นต้น โดยเอไอตัวนี้สามารถระบุหมายเลขที่นั่งของลูกค้าที่ทำพฤติกรรมนั้นได้อย่างแม่นยำ
ทาง Kura Sushi ออกมาอธิบายว่า การตัดสินใจทำเช่นนี้ เพราะต้องการปกป้องลูกค้าจากความประสงค์ร้าย และเพื่อเพิ่มความสบายใจให้แก่ลูกค้าปกติในการทานอาหารภายในร้าน
“ซูชิสายพานเป็นสิ่งที่เราภูมิใจในฐานะส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมญี่ปุ่น เราต้องการแน่ใจว่าลูกค้าของเราสามารถกินซูชิบนสายพานได้อย่างปลอดภัย”
นอกจากนี้ ร้านซูชิสายพานของญี่ปุ่นอีกหลาย ๆ ร้าน ก็มีการปรับปรุงระบบใหม่ เพื่อเรียกลูกค้ากลับคืนมา เช่น ร้านซูชิ Sushiro หยุดใช้สายพานขนส่งซูชิชั่วคราว และเปลี่ยนมาใช้ระบบตามสั่งแทน
ที่มา: mainichi english.kyodonews