เซนเซอร์วัดระดับน้ำในแปลงนา อยู่ที่ศูนย์วิจัยข้าวฉะเชิงเทรา
สกสว.หนุนศูนย์วิจัยข้าวฉะเชิงเทรา พัฒนาระบบเซนเซอร์วัดระดับน้ำในแปลงนา มุ่งจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้ง แบบเรียลไทม์ แม่นยำและมีประสิทธิภาพ ช่วยประหยัดน้ำ ลดโลกร้อน และเพิ่มผลผลิตข้าว
นายนพดล ประยูรสุข ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยข้าวพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยถึงการพัฒนาระบบเซนเซอร์วัดระดับน้ำในแปลงนาเพื่อการจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้ง (AWD) ว่าระบบเซนเซอร์ดังกล่าวเป็นอุปกรณ์ช่วยสนับสนุนการจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้งในการผลิตข้าวพื้นที่นาชลประทาน
โดยเป็นเทคโนโลยีการจัดการน้ำในแปลงนา ที่กรมการข้าวดำเนินการวิจัยและเผยแพร่มาอย่างต่อเนื่อง อุปกรณ์ดังกล่าวเป็นตัวต้นแบบที่พร้อมเผยแพร่สู่การนำไปใช้ประโยชน์
ปัจจุบันได้นำมาทดสอบใช้ในแปลงวิจัยศูนย์ข้าว ศูนย์ข้าวชุมชน และนาแปลงใหญ่จังหวัดฉะเชิงเทรา สุพรรณบุรี และปทุมธานี ทั้งนี้อยู่ระหว่างการเตรียมข้อมูลสำหรับจดอนุสิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญาเป็นผลงานของกรมการข้าว
ระบบเซนเซอร์นี้เป็นผลผลิตจากงานวิจัย ภายใต้แผนงานนวัตกรรมด้านพันธุ์และเทคโนโลยีการผลิตข้าว เพื่อรองรับการเกษตรสมัยใหม่ ซึ่งนายนพดลเป็นหัวหน้าโครงการ ขณะดำรงตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มวิชาการ ศูนย์วิจัยข้าวฉะเชิงเทรา
ได้รับงบประมาณสนับสนุนการวิจัยจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) โดยใช้หลักการทำงานร่วมกันของเซนเซอร์ IoT และระบบคลาวด์
นพดล ประยูรสุข
เป็นอุปกรณ์ที่มีเซนเซอร์วัดระดับน้ำซึ่งได้มาจากการแปลงค่าความดันของน้ำในระดับความสูงจากผิวดินที่แตกต่างกัน แล้วส่งข้อมูลที่ตรวจวัดได้เข้าสู่ระบบคลาวด์เพื่อจัดเก็บเป็นข้อมูล
ผู้ใช้สามารถเรียกดูข้อมูลระดับความสูงของแปลงนาย้อนหลังได้ตลอดฤดูกาลเพาะปลูก และยังส่งข้อมูลชุดดังกล่าวนี้เข้าระบบการแจ้งเตือนระดับน้ำผ่านแอปพลิเคชัน LINE ได้อีกด้วย
ทำให้ผู้ใช้ทราบระดับน้ำในแปลงนาไปวางแผนจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้งแบบเรียลไทม์อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำมากยิ่งขึ้น
ข้อแตกต่างของระบบเซนเซอร์วัดระดับน้ำในแปลงนาที่พัฒนาขึ้น คือ ใช้การตรวจวัดแรงดันน้ำ ข้อมูลที่ได้จะถูกแปลงเป็นข้อมูลดิจิทัลเพื่อดูระดับน้ำว่าอยู่สูงหรือต่ำกว่าระดับอ้างอิง ซึ่งเป็นระดับเดียวกันกับผิวดินในแปลงนา โดยใช้ความรู้การจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้ง
นั่นคือ หากระดับน้ำต่ำกว่าผิวดิน -15 เซนติเมตร เราจะปล่อยน้ำเข้านาจนถึงระดับ +5 หรือ +10 เซนติเมตรเหนือผิวดิน ขณะที่ระบบเซนเซอร์ของหน่วยงานอื่นอาจจะใช้กระแสไฟฟ้าสปาร์คกันในการระบุความสูงของระดับน้ำ หรือใช้หลักการสะท้อนของคลื่นแสง” นายนพดลกล่าวเสริม
ทั้งนี้ ระบบเซนเซอร์วัดระดับน้ำในแปลงนาดังกล่าวช่วยทำให้เกิดประโยชน์ในหลายด้าน ทั้งการใช้ทรัพยากรน้ำในการผลิตข้าวให้น้อยที่สุด และด้านสิ่งแวดล้อมที่ช่วยลดการเกิดก๊าซเรือนกระจกซึ่งเกิดจากการทำนาน้ำขังลงได้อีกด้วย
โดยลดปริมาณน้ำที่ใช้ในการผลิตข้าวลงได้มากกว่าร้อยละ 30 เมื่อเปรียบเทียบกับการขังน้ำตลอดเวลาเพาะปลูก จากปกตินาข้าวใช้น้ำประมาณ 1,200 ลูกบาศก์เมตร/ไร่/ฤดู เหลือเพียง 800 ลูกบาศก์เมตร และเพิ่มผลผลิตข้าวจากเดิมได้มากถึงร้อยละ 10-15
นอกจากนี้ยังสามารถลดการเกิดก๊าซมีเทน อันเป็นก๊าซสำคัญที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนได้มากถึงร้อยละ 20-80.