ตัวอย่าง AI ดูกันแบบจะๆ | วรากรณ์ สามโกเศศ
ผู้คนกล่าวถึง AI กันมากในปัจจุบัน วันนี้ลองมาดูตัวอย่างของ AI กันแบบจะๆ ซึ่งอาจทำให้ชัดเจนขึ้นบ้างว่ามันคืออะไรและรับใช้มนุษย์อย่างไร มันจะทำให้โลกพัฒนาก้าวหน้าขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน หรือจะทำให้มนุษยชาติดับสิ้นไปในระยะยาว
AI หรือ Artificial Intelligence หรือปัญญาประดิษฐ์ เป็นผลพวงของการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ให้ทำงานต่างๆ ที่มนุษย์ปกติทำอยู่แล้วโดยใช้ความฉลาด งานเหล่านี้ได้แก่การเข้าใจภาษาของมนุษย์ ระบุแบบแผนต่าง ๆ ของภาพได้ ตัดสินใจและเรียนรู้จากประสบการณ์
AI ทำงานในลักษณะเดียวกับที่มนุษย์ใช้สมองคิดและแก้ไขปัญหา ลองมาดูตัวอย่างกัน
(1) จำหน้าคนได้ AI ที่เป็นแอพพลิเคชั่นจำหน้าคนได้นั้นจะมีภาพหน้าคนต้นแบบ (ภาพหน้าตัวจริง) พร้อมข้อมูลอื่น ๆ เช่น ชื่อ ที่อยู่ ประวัติ ฯลฯ อยู่ในคลังข้อมูล เมื่อเอาภาพถ่ายมาเทียบกับภาพตัวจริง คอมพิวเตอร์ก็จะใช้ AI เปรียบเทียบจุดต่างๆ นับร้อยนับพันจุดบนใบหน้าและก็ตัดสินใจว่าใช่คนเดียวกันหรือไม่
แอพพลิเคชั่นนี้ใช้กันอย่างกว้างขวางในประเทศจีนในการควบคุมให้พลเมืองมีความประพฤติอยู่ในกรอบ หากไปทำอะไรที่ภาครัฐเห็นว่าไม่ดีก็จะถูกหักแต้มจดหมดสิทธิ์ในหลายเรื่อง ปัจจุบันโปรแกรมนี้มีออกมาขายและมีการนำมาใช้กันในประเทศต่างๆ ด้วย
อีกแอพพลิเคชั่นหนึ่งที่คล้ายคลึงกันคือ เปรียบเทียบป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ถ่ายได้จากที่วิ่งบนถนนกับภาพป้ายตัวจริง ปัจจุบันโจรลำบากมากขึ้นเพราะกล้องสามารถบอกทะเบียนรถได้ชัดเจน
ถึงแม้ภาพจะเบลอมากก็ตาม AI จะวิเคราะห์แต่ละจุดบนป้ายจริงว่าถ้าสั่นแล้วหน้าตาจะเป็นอย่างไร และก็เอาแต่ละจุดของภาพที่ถ่ายได้ไม่ชัดเพราะสั่นมาเปรียบเทียบกัน ก็จะย้อนกลับไปเห็นว่าภาพจริงคืออะไร
ฟิล์มเอ็กซเรย์นั้น AI ก็อ่านได้เก่งกว่ามนุษย์ กล่าวคือสอนให้ AI จดจำว่าจุดดำเทาขาวโปร่ง ขาวไม่โปร่งเมื่อรวมกลุ่มกันหมายถึงอะไร เมื่อสอนมากเป็นหมื่นเป็นแสนแผ่นโดยเรียนรู้จากแต่ละจุดบนแผ่นเอ็กซเรย์นับล้าน ๆ จุด
มันก็จะบอกได้ว่าภาพแสดงถึงความปกติหรือไม่ปกติของอวัยวะอย่างไร มันไม่มีอารมณ์ ไม่มีความเอนเอียงตราบที่คนสอนไม่เอนเอียง จึงทำได้ดีกว่าในการเห็นภาพ และระบุแบบแผนของกลุ่มเซลล์บนอวัยวะ
โดรน (drones) ที่โจมตีอาคารก็ใช้ AI เช่นกัน อาคารที่โดรนจะพุ่งเข้าโจมตีนั้นภาพของมันถูกบันทึกไว้ใน AI ของโดรน ระหว่างที่มันวิ่งหาเป้ามันก็จะเปรียบเทียบภาพที่เห็นจริงกับภาพอาคารที่เก็บบันทึกไว้ หากมันตรงกัน ก็วิ่งเข้าชนและระเบิดอย่างแม่นยำ
(2) พูดได้ อ่านได้ และเขียนได้ Natural Language Processing หรือ NLP คือเทคโนโลยีที่สอนให้คอมพิวเตอร์เข้าใจและทำงานกับภาษาของมนุษย์ มันช่วยให้คอมพิวเตอร์อ่าน เขียน และพูดเหมือนมนุษย์ เวลาเราพูดหรือพิมพ์ข้อความนั้น NLP จะทำงานด้วยการทำให้คอมพิวเตอร์เข้าใจและตอบโต้กับเราได้
NLP เป็นสาขาหนึ่งของ AI ในการทำให้คอมพิวเตอร์เข้าใจและสร้างภาษามนุษย์ในลักษณะที่มีความหมายและเป็นประโยชน์ NLP เป็นเทคโนโลยีใช้สำหรับงานด้านวิเคราะห์เนื้อหาและบริบทของภาษาด้วย
NLP นี่แหละที่ทำให้ AI สามารถแปลภาษา เขียนข้อความ แก้ไขปรับข้อความให้มีความหมายและถูกต้องตามไวยากรณ์อีกทั้งสละสลายด้วย
ที่สำคัญอย่างยิ่งก็คือสามารถนำเสนอข้อมูล และบทวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆตามที่ได้รับคำสั่ง มันเป็นโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่นที่วิเศษและตื่นเต้นกันมากตลอดเวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมาใช่แล้วครับผมกำลังพูดถึง GPT(Generative Pre-training Transformer)
(3) GPT แอพพลิเคชั่นนี้พูดโต้ตอบกับมนุษย์ได้ และผลิตหรือสร้าง (generate) เอกสาร ข้อมูล หรือบทวิเคราะห์ที่เราต้องการโดยมันมาจาก “การฝึกการสอน” (pre-training) คอมพิวเตอร์ก่อนหน้า ให้เรียนรู้เรื่องราวและรับทราบข้อมูลมหาศาลในโลก ตลอดจนการลองสร้างบทวิเคราะห์ คล้ายกับการให้เด็กทำการบ้านคิดเลข ทำผิดทำถูกมาก ๆ จนเก่งเลข คอมพิวเตอร์เมื่อได้เรียนรู้ภายใต้กฎกติกา และข้อมูลที่ป้อนให้ก็จะให้คำตอบได้เหมือนมนุษย์
การสร้าง AI แบบนี้ขึ้นมาทำให้มันสามารถออกแบบปกหนังสือได้ แต่งเพลง แต่งกลอน เขียนเรียงความ แปลภาษา เขียนโปรแกรมคอมพิวตอร์ (coding) คิดวิเคราะห์ ตอบคำถาม พยากรณ์ด้วยข้อมูลที่มี ทำอะไรยากๆ ที่มนุษย์ต้องใช้เวลานาน โดยมันใช้เวลาไม่กี่วินาที วิเคราะห์หาจุดเชื่อมต่อของข้อมูลต่าง ๆ มองเห็นบางสิ่งที่มนุษย์อาจมองข้าม ฯลฯ
สิ่งที่ต้องระวังของ GPT คือ (1) เอนเอียงตามข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ถูกป้อนและ”ถูกสอน “ มา (2) ข้อมูลอาจผิด (3) อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อด้อยค่าผู้อื่นด้วยการให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ และ (4) อาจมีการแทรกคำสอนหรือข้อมูลแบบเนียน ๆ เพื่อให้มีอิทธิพลต่อความคิดของผู้ใช้ก็เป็นได้
ตัวอย่างที่พูดกันก็คือในเร็วๆ นี้จะมีตุ๊กตาหมี (teddy bear) ที่เป็น GPT ออกสู่ตลาด มันจะพูดโต้ตอบกับเด็กสร้างความผูกพันเป็นเพื่อนเด็ก และมันอาจสอนบางคุณค่าที่พ่อแม่ไม่ชอบให้เด็กก็เป็นได้เพราะพ่อแม่อาจไม่ใกล้ชิดลูกเท่าเจ้าหมี
นอกจากนี้ข้อมูลบางอย่างอันเป็นส่วนตัวของครอบครัวอาจถูกบันทึกโดยกลไกในตัวหมีเพื่อเอาไปขายต่อก็เป็นได้ อย่าลืมว่าในปัจจุบันข้อมูลคือทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต มันสามารถเอาไปใช้ทางการค้าและการเมืองได้มากมาย
(4) งานวิจัยขั้นสูง ในปี 2019 มีการค้นพบยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่มีพิษรุนแรงดังเรียกว่าsuperbugs ในเวลาอันสั้น AI ถูกสอนให้รู้จักโครงสร้างทางเคมีของยาฆ่าเชื้อ 2-3 พันชนิดที่ใช้ได้ผล เมื่อรู้จักแล้ว AI ก็สำรวจวัสดุและสารต่าง ๆ นับล้านชนิดเพื่อหาโครงสร้างที่มีลักษณะคล้ายยาที่รักษาได้ผล
การวิเคราะห์ทำให้ลดจำนวนวัสดุลงเหลือเพียง 5 ชนิดและเอามาทดลองในห้องแล็บจนได้ยาปราบ superrogs AI ในที่นี้ทำหน้าที่คล้ายเครื่องตรวจจับโลหะ เมื่อรู้ว่ามีโลหะอยู่ตรงนั้นก็ขุดออกมาดูจนพบสารโลหะที่ต้องการ หากไม่มีเครื่องตรวจจับแล้วก็ต้องขุดทุกแห่งหนใช้เวลากันอีกยาวนาน
ไม่ว่า AI จะดูวิเศษอย่างไรมันก็เป็นเพียงเครื่องมือของมนุษย์ มิได้มีความฉลาดสูงส่งด้วยตนเอง อย่าลืมว่ามัน “ฉลาด” อย่างแตกต่างจากมนุษย์ที่มีความรู้สึกและอารมณ์ มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี มีความทรงจำแบบมนุษย์ มีแรงบันดาลใจ มีความเป็นมนุษย์ที่มีความเมตตากรุณา มีมิตรไมตรี ฯลฯ ต่อมนุษย์ด้วยกัน
มนุษย์และ AI เป็นสองกลุ่มที่มีความหมายของ“ความเก่ง” แตกต่างกัน AI มีศักยภาพในการพัฒนาโลกมนุษย์อย่างยิ่งตราบที่มนุษย์พัฒนามันไปอย่างถูกทางในอนาคต.