‘ฮารุนะ’ ผงผักพรีไบโอติก อนาคตยูนิคอร์นสายเฮลท์เทค

‘ฮารุนะ’ ผงผักพรีไบโอติก อนาคตยูนิคอร์นสายเฮลท์เทค

“ฮารุนะ” ผงผักพรีไบโอติกที่เกิดจากความใส่ใจ แก้ปัญหาท้องผูกเรื้อรัง ตลอดจนป้องกันมะเร็งลำไส้ในระยะยาว ด้าน NIA ชี้ อนาคตยูนิคอร์นสายเฮลท์เทคตัวใหม่ของไทย ตั้งเป้ายอดขาย 300 ล้านบาทภายใน 3 ปี

ผลิตภัณฑ์พรีไบโอติกเป็นนวัตกรรมอาหารเพื่อสุขภาพและเป็นอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก การนำพรีไบโอติกไปเป็นส่วนประกอบหลักของผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มจึงมีการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นทุกปี

ประกอบกับโรคทางเดินอาหารซึ่งรวมถึงภาวะท้องผูก ยังไม่มีแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธี หรือเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเป็นส่วนใหญ่ จึงเป็นโอกาสแจ้งเกิดให้กับ “ฮารุนะ” ผงผักพรีไบโอติก 

การันตีด้วยรางวัลรองชนะเลิศ 7 Innovation Awards (ด้านเศรษฐกิจ) และทุนสนับสนุนจากกองทุนผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Fund) เพื่อต่อยอดนวัตกรรมช่วยผู้คนแก้ไขปัญหาลำไส้ระยะยาว ตลอดจนช่วยบำบัดผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับทางเดินอาหาร โดยตั้งเป้ายอดขายกว่า 300 ล้านบาทภายใน 3 ปี

ตลาดพรีไบโอติกมีมูลค่าสูงถึง 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ คาดการณ์ว่าจะเติบโตถึงระดับ 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2569 มีอัตราความเจริญเติบโตต่อปีสูงถึง 8.3 % ขณะที่ตลาดพรีไบโอติกประเทศไทยมีมูลค่าอยู่ที่ 4.1 พันล้านบาทต่อปี

‘ฮารุนะ’ ผงผักพรีไบโอติก อนาคตยูนิคอร์นสายเฮลท์เทค

“ผงผัก” จากความใส่ใจ

จุดเริ่มต้นของผงผักพรีไบโอติกฮารุนะ (Haruna) มาจากอาการปวดท้องฉับพลันจากการทำงานผิดปกติของลำไส้ ที่เกิดกับลูกชาย ทำให้ “จิรินทร์กาญจน์ ศิริธรรมวัฒน์” ขบคิดหาวิธีป้องกันโรคเกี่ยวกับลำไส้ และไม่ให้ผู้ป่วยกลับมาเกิดโรคดังเดิมซ้ำ 

“หลังจากพยายามศึกษาข้อมูลงานวิจัย ประกอบกับการมีพื้นฐานทางด้านชีววิทยา จึงนำข้อมูลที่ได้ไปปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และพัฒนาเป็นผงผักพรีไบโอติกโดยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติมาผ่านกระบวนการเพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนโครงสร้างภายในโมเลกุลของเม็ดแป้งในวัตถุดิบ เกิดเป็นแป้งทนการย่อยที่มีคุณสมบัติพิเศษ" จิรินทร์กาญจน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท วีทีเค อินโน กรุ๊ป จำกัด กล่าว

ผลิตภัณฑ์ฮารุนะผลิตโดยใช้นวัตกรรมแป้งทนย่อย (Resistant Starch) ที่ไม่เคยมีมาก่อนในไทย แป้งสามารถทนทานต่อกรดในกระเพาะและการดูดซึมในลำไส้เล็ก ส่งผลให้กลายเป็นอาหารของจุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่ แป้งทนย่อยจะปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ให้เป็นปกติ ทำให้ลำไส้แข็งแรงและทำให้ระบบการขับถ่ายดีขึ้น

วัตถุดิบที่สำคัญ เม็ดแปะก๊วย ผักโขม ข้าวโพด ข้าวกล้อง และที่สำคัญคือไม่มีส่วนประกอบของยาระบายที่กระตุ้นให้เกิดการขับถ่ายทันที แต่เป็นการปรับสมดุลของลำไส้ให้ค่อยๆ ดีขึ้น

‘ฮารุนะ’ ผงผักพรีไบโอติก อนาคตยูนิคอร์นสายเฮลท์เทค

สตาร์ตอัป นักวิจัยและผู้ให้ทุน

ฮารุนะได้รับทุนสนับสนุนงานวิจัยจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ในโครงการ Thematic Innovation เพื่อผลักดันให้ฮารุนะเข้าสู่ “อาหารสำหรับผู้มีวัตถุประสงค์การบริโภคเป็นพิเศษ” โดยมี รศ.กิตติ สรณเจริญพงศ์ อาจารย์ประจำสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นที่ปรึกษางานวิจัยระดับคลินิก เพื่อทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค ตลอดจนทดสอบมาตรฐานสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

“ทาง NIA มีเป้าหมายสนับสนุนและส่งเสริม เอสเอ็มอี สตาร์ตอัป วิสาหกิจเพื่อสังคม และวิสาหกิจชุมชนไทย โดยปรับเพิ่มการพัฒนาด้านการตลาดให้มากขึ้น เพื่อทำให้นวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนาสามารถสร้างรายได้และสร้างมูลค่าการส่งออกได้จริง จึงอยากเห็นฮารุนะ ซึ่งเป็น Health Tech Start-Up ก้าวถึงระดับยูนิคอร์นในอนาคตอันใกล้นี้" สุรอรรถ ศุภจัตุรัส รองผู้อำนวยการด้านนวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าว

การสนับสนุนจาก NIA ครั้งนี้จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย และตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนประเทศได้อย่างเติบโตและยั่งยืน

นอกจากนี้ ฮารุนะยังได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ TED Market Scaling up ของทาง TED Fund จาก 200 กว่าโครงการ เพื่อส่งเสริมการขยายตลาดและธุรกิจของผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม และยังได้รับรางวัลการโหวตจากผู้ร่วมอบรมโครงการว่าเป็นธุรกิจที่น่าลงทุนที่สุด

เอกธัช ภัทระโภคพัฐ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาโครงการ TED Fund กล่าวว่า ฮารุนะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่กองทุนฯ ช่วยเรื่องการพัฒนาและสนับสนุนการตลาด ตั้งแต่การปรับแพ็กเกจ ด้านอินฟลูเอนเซอร์ การทำการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เติบโตอย่างมั่นคงยั่งยืน นอกจากการสนับสนุนเงินทุนแล้ว ทาง TED Fund ยังมีการให้ความรู้ผู้ประกอบการในด้านธุรกิจอีกด้วย

กลยุทธ์ทางการตลาด

ฮารุนะ ทำตลาดจำหน่ายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลส และยังจำหน่ายผ่านตัวแทนร้านขายยา ร้านสะดวกซื้อ และปี 2566 มีแผนที่จะขยายผลิตภัณฑ์ไปสู่กลุ่ม Daily Used และผลิตภัณฑ์แบบกระป๋องใหญ่เพื่อกลุ่มผู้ใหญ่ เนื่องจากเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่

“สำหรับกลุ่มเป้าหมายคือ เด็กที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไปที่เริ่มรับประทานอาหารได้ แต่มีอาการท้องผูก สามารถนำผงผักฮารุนะไปโรยในข้าวหรือน้ำซุปได้ช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ให้ลำไส้ใหญ่ จึงเป็นการแก้ปัญหาได้ถึงต้นเหตุ ตลอดจนกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งลำไส้ ที่สำคัญยังปราศจากสารเคมีจึงเหมาะสำหรับเด็กและสตรีมีครรภ์” จิรินทร์กาญจน์ กล่าว

นอกจากนี้แล้ว ฮารุนะยังมีแผนการตลาดที่ชื่อว่า นวัตกรรม 3P ได้แก่ พรีไบโอติก โพรไบโอติก และโพสไบโอติก โดยแตกไลน์ผลิตภัณฑ์จากผงผักชงดื่มหรือนำไปผสมกับอาหารเป็นเจลลี่ที่รับประทานได้ง่ายขึ้นอีกด้วย