‘ไป่ตู้’ โชว์ศักยภาพ AI ในงาน Baidu World 2024 ตั้งเป้าครองแชมป์เอเชีย
ไป่ตู้ (BaidU) ทุ่มงบลงทุนด้านเอไอเพิ่ม 200% ในปี 2025 หวังขึ้นครองตลาดเอเชีย ท้าชนเทคยักษ์ใหญ่ระดับโลก พร้อมอัปเดตนวัตกรรมในงาน Baidu World 2024 ทั้ง iRAG แก้ปัญหาภาพหลอน Miaoda สร้างแอปฯ ไร้โค้ด และแว่นอัจฉริยะ Xiaodu
ขณะที่โลกกำลังจับตามองการแข่งขันด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระหว่างบริษัทเทคยักษ์ใหญ่อย่าง OpenAI, Microsoft และ Google ทางฝั่งตะวันออก “ไป่ตู้ (Baidu)” บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีนก็มีส่วนแบ่งตลาดด้านเสิร์ชเอนจินในจีนมากกว่า 70% นับตั้งแต่การก่อตั้งในปี 2000
โดยล่าสุดในงาน Baidu World 2024 ที่เซี่ยงไฮ้ บริษัทได้เปิดเผยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเอไอ พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าการใช้งานเอไอในชีวิตประจำวัน โดยมีผู้เข้าร่วมงานจากทั่วโลกกว่า 10,000 คน
โรบิน หลี่ (Robin Li Yanhong) ซีอีโอของไป่ตู้ เผยตัวเลขการใช้งานของ ERNIE โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่รู้จักกันในชื่อ Wenxin ในภาษาจีน ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีการเรียกใช้งาน API มากถึง 1,500 ล้านครั้งต่อวัน เพิ่มขึ้นจาก 200 ล้านครั้งต่อวันในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ERNIE มีความสามารถในการเข้าใจและประมวลผลภาษาจีนได้ดี เนื่องจากถูกฝึกฝนด้วยข้อมูลภาษาจีนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในภาคธุรกิจที่นำเอไอไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ นั้นใช้มากกว่า 100 อุตสาหกรรม
ไฮไลท์สำคัญในงาน Baidu World 2024
ไป่ตู้ได้เปิดตัว iRAG เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหา “ภาพหลอน” หรือ hallucination ในการสร้างภาพด้วยเอไอ ซึ่งเป็นปัญหาที่คนใช้เอไอทั่วโลกต้องเผชิญ
เทคโนโลยี iRAG นี้ใช้เทคนิค Retrieval-Augmented Generation ที่ได้รับการพัฒนาโดยทีมวิจัยของ Baidu ร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำของจีน โดย iRAG ใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลภาพขนาดมหึมาของ Baidu Search ที่มีภาพนับร้อยล้านภาพ ซึ่งได้รับการจัดหมวดหมู่และทำ metadata อย่างเป็นระบบ ผสานกับความสามารถของโมเดลเอไอขั้นสูง ทำให้สามารถสร้างภาพที่สมจริงและน่าเชื่อถือมากขึ้น
จากการทดสอบพบว่า iRAG สามารถลดอัตราการเกิด hallucination ได้มากถึง 85% เมื่อเทียบกับโมเดลทั่วไป เหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เช่น การออกแบบ การตลาด และการผลิตสื่อบันเทิง
นอกจากนี้ ไป่ตู้ยังได้เปิดตัว Miaoda เครื่องมือพัฒนาแอปพลิเคชันแบบ no-code ที่ใช้เทคโนโลยี Natural Language Processing (NLP) ขั้นสูง ช่วยให้ผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมสามารถสร้างแอปพลิเคชันได้เพียงแค่อธิบายความต้องการเป็นภาษาธรรมชาติ
โดย Miaoda สามารถแปลงคำอธิบายเป็นโค้ดที่ทำงานได้จริงด้วยความแม่นยำสูงถึง 95% นับเป็นการปฏิวัติวงการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่จะช่วยลดข้อจำกัดด้านทักษะการเขียนโค้ด
ในด้านฮาร์ดแวร์ บริษัทได้เปิดตัว Xiaodu AI Glasses แว่นตาอัจฉริยะที่ผสานเทคโนโลยีเอไอน้ำหนักเบาเพียง 45 กรัม ซึ่งเบากว่าแว่นตา AR ทั่วไปในท้องตลาดที่มีน้ำหนักเฉลี่ย 80-100 กรัม มาพร้อมกล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซลพร้อมระบบกันสั่นเอไอ และฟังก์ชันอัจฉริยะมากมาย
ทั้งการตอบคำถามแบบเรียลไทม์ การแปลภาษารองรับ 12 ภาษาหลัก และการจดจำวัตถุด้วยความแม่นยำสูงถึง 98% คาดว่าจะวางจำหน่ายในช่วงต้นปี 2025 ในราคาประมาณ 10,000 บาท
ลงทุนด้านเอไอเพิ่ม 200% หวังครองผู้นำตลาดเอเชียปี 2025
แม้ว่ารายได้จากธุรกิจโฆษณาออนไลน์แบบดั้งเดิมของไป่ตู้จะลดลง 2% เหลือประมาณ 92,420 ล้านบาท แต่การเติบโตของธุรกิจเอไอกำลังช่วยสร้างความมั่นคงให้กับบริษัท โดยรายได้จากธุรกิจเอไอของบริษัทเติบโตขึ้น 45% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
โดยแพลตฟอร์ม Qianfan ของไป่ตู้ได้ช่วยให้ลูกค้าองค์กรสามารถฝึกอบรมโมเดลเอไอกว่า 33,000 โมเดล และพัฒนาแอปพลิเคชันมากถึง 770,000 แอปพลิเคชัน แพลตฟอร์มนี้ใช้เทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งที่ทันสมัย สามารถรองรับการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กลยุทธ์ของไป่ตู้ที่เน้นการพัฒนา AI Agents หรือตัวแทนเอไอที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะในด้านต่างๆ กำลังได้รับการตอบรับที่ดี โดย ERNIE AgentBuilder ได้ดึงดูดความสนใจจากธุรกิจกว่า 150,000 ราย และนักพัฒนากว่า 800,000 คน ซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ถึง 30%
“บริษัทตั้งเป้าที่จะลงทุนด้านเอไอเพิ่มขึ้นอีก 200% ในปี 2025 เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดเอไอของเอเชีย” โรบิน หลี่ กล่าวในงาน
อ้างอิง: Analytics India และ Pune