การเปลี่ยนผ่านของระบบสุขภาพสู่ยุคดิจิทัล: อย่าลืมปัญหากฎหมาย

การเปลี่ยนผ่านของระบบสุขภาพสู่ยุคดิจิทัล: อย่าลืมปัญหากฎหมาย

Katarzyna Kolasa ผู้เขียนหนังสือ The Digital Transformation of the Healthcare System: Healthcare 5.0 ได้นำเสนอวิสัยทัศน์ใหม่ที่เรียกว่า "Healthcare 5.0"

ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในทุกมิติของชีวิต ระบบการดูแลสุขภาพก็กำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

Katarzyna Kolasa ผู้เขียนหนังสือ The Digital Transformation of the Healthcare System: Healthcare 5.0 ได้นำเสนอวิสัยทัศน์ใหม่ที่เรียกว่า "Healthcare 5.0"

ซึ่งเปลี่ยนระบบสุขภาพจากแบบดั้งเดิม ที่เน้นการรักษาโดยแพทย์ในโรงพยาบาลไปสู่ระบบดิจิทัลที่ให้อำนาจคนไข้ดูแลตัวเองผ่านเทคโนโลยี 

คุณ Kolasa อธิบายว่าระบบสุขภาพแบบเก่าตั้งอยู่บนแนวคิดที่ว่า คนไข้มีความรู้ไม่เท่าแพทย์จึงต้องพึ่งพาแพทย์ตัดสินใจ แต่ระบบนี้เน้น "รักษา" มากกว่า "ป้องกัน"

แต่ Healthcare 5.0 เสนอให้เปลี่ยนมาใช้ข้อมูลดิจิทัล เช่น จากการตรวจยีนหรือเซ็นเซอร์ เพื่อคาดการณ์และป้องกันโรคแทนที่จะรอให้ป่วย 

ระบบนี้จะไม่ผูกติดกับสถานที่ เช่น โรงพยาบาล แต่ทำงานผ่านเครือข่ายดิจิทัลบนคลาวด์ ผู้ช่วยเสมือน (Virtual Assistant หรือ VA) ซึ่งเป็น AI จะคอยแนะนำ

เป้าหมายคือให้คนไข้มี "individual sovereignty" หรืออำนาจควบคุมสุขภาพตัวเอง และมองสุขภาพแบบ "holistic" ที่ครอบคลุมทั้งร่างกาย จิตใจ และการใช้ชีวิต

ตัวอย่างเช่น การใช้ "wearables" หรืออุปกรณ์สวมใส่ เช่น สมาร์ทวอทช์ ที่วัดอัตราการเต้นของหัวใจ อุณหภูมิ หรือคุณภาพการนอน ใน Healthcare 5.0 อุปกรณ์เหล่านี้จะเก็บข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง ส่งไปวิเคราะห์โดย VA เพื่อให้คำแนะนำส่วนตัว

เช่น "คุณนอนไม่พอ ควรพักผ่อนเพิ่ม" หรือ "หัวใจเต้นผิดปกติ ต้องตรวจเพิ่ม" ตัวอย่างจริง เช่น Philips BX100 Biosensor ที่พกพาได้และส่งข้อมูลสุขภาพแบบเรียลไทม์ แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีนี้พร้อมแล้ว สิ่งนี้ช่วยลดการไปโรงพยาบาลและให้คนไข้ดูแลตัวเองได้ทันท่วงที

อีกตัวอย่างหนึ่งคือการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์จากระยะไกล (robotic-assisted surgery) การให้หุ่นยนต์อย่าง ZEUS Robotic Surgical System ทำการผ่าตัด โดยแพทย์ควบคุมจากที่อื่น

วิธีนี้ลดเวลาอยู่โรงพยาบาลและเพิ่มการเข้าถึงแพทย์ชั้นนำ เช่น คนไข้ในชนบทอาจได้รับการผ่าตัดจากผู้เชี่ยวชาญในเมืองใหญ่โดยไม่ต้องเดินทาง 

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนผ่านนี้ก่อให้เกิดประเด็นทางกฎหมายที่ท้าทาย และจะต้องต้องได้รับการแก้ไขปรับปรุง

เช่น ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล Healthcare 5.0 อาศัยข้อมูลส่วนตัวจำนวนมาก เช่น ข้อมูลยีนหรือพฤติกรรมประจำวัน

จากการสำรวจคนหนุ่มสาวโปแลนด์ 320 คน พบว่าหลายคนกังวลว่าข้อมูลจะรั่วไหลหรือถูกใช้ในทางที่ผิด

การป้องกันข้อมูลเหล่านี้ก็จะต้องมีการเข้ารหัสข้อมูลหรือระบบป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ เพราะหากไม่มีระบบป้องกันแล้ว ความไม่ไว้วางใจ ซึ่งก็จะขัดขวางการยอมรับระบบนี้

หรือความรับผิดชอบทางกฎหมายและความปลอดภัยของเทคโนโลยี เช่น เมื่อ VA หรือหุ่นยนต์ตัดสินใจแทนแพทย์ เช่น สั่งยาหรือผ่าตัด ถ้ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ? เป็นต้น 

Healthcare 5.0 นำเสนออนาคตที่ระบบสุขภาพเปลี่ยนจากโรงพยาบาลมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล แต่ก็มีปัญหากฎหมายหลายประการที่จะต้องแก้ไขเช่นเดียวกัน.