เสริมพลังรับอนาคต

อายุขัยโดยเฉลี่ยของคนเราถูกวิทยาการสมัยใหม่ยกระดับให้ยืนยาวขึ้นจนถึง 80 ปี ซึ่งอาจฟังดูเยอะจนเราคิดว่าใช้เวลาในชีวิตแบบทิ้งๆ ขว้างๆ ไปบ้างก็ไม่เสียดายอะไร แต่ถ้าหากคิดออกมาเป็นจำนวนวันจะพบว่าเรามีเวลาอยู่บนโลกไม่เกิน 3 หมื่นวันเท่านั้น

การใช้ชีวิตแบบผ่านมาผ่านไป คือไม่มีคุณค่ามากพอให้เราได้มีความภาคภูมิใจในชีวิตอาจกลายเป็นตัวการสร้างความเครียดให้กับเราโดยไม่รู้ตัว 

เพราะหลายๆ คนที่รักสบายจนไม่ได้สร้างผลงานใดๆ เป็นชิ้นเป็นอัน กลับต้องนอนไม่หลับในเวลากลางคืนเพราะเสียดายเวลาที่ผ่านเลยไปโดยไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ขึ้นเลย

หลายคนกว่าจะรู้ตัวก็ปล่อยให้เวลาล่วงเลยจนมีอายุมากขึ้นๆ ซึ่งกว่าจะถึงตอนนั้นจะใช้เงินสักเท่าไรเพื่อซื้อเวลากลับคืนมาก็เป็นไปไม่ได้เสียแล้ว เพราะช่วงเวลาที่เป็นหนุ่มเป็นสาวอันเต็มไปด้วยพละกำลังและสติปัญญาที่เฉียบแหลมไม่อาจหวนคืนมาได้

ธุรกิจสตาร์ตอัพของคนรุ่นใหม่เป็นตัวอย่างอันดีที่ทำให้เห็นว่าการบุกเบิกสิ่งใหม่เพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในทางธุรกิจนั้นจำเป็นต้องล้มให้เร็วและลุกขึ้นให้เร็วที่สุด เพราะความล้มเหลวถือเป็นหนึ่งในสมการสู่ความสำเร็จ

เช่นเดียวกับนักกีฬาที่ไม่มีใครก้าวสู่จุดสูงสุดได้โดยไม่บาดเจ็บ พลังของคนหนุ่มสาวจึงเป็นสิ่งสำคัญมากในยามที่ต้องพบเจอกับกับความล้มเหลวถึงขีดสุด แต่สามารถเรียนรู้และสร้างเป็นบทเรียนจนมีแนวทางใหม่ไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้ในที่สุด

ที่สำคัญคือวัฎจักรของความสำเร็จและล้มเหลวที่อาจหมุนเวียนต่อเนื่อง ไม่ได้เป็นการเดินทางเที่ยวเดียวจากความล้มเหลวไปสู่ความสำเร็จ แต่หนึ่งชั่วอายุคนอาจต้องพบเจอกับความล้มเหลวสู่ความสำเร็จ และจากความสำเร็จสู่ความล้มเหลว เพื่อเป็นประสบการณ์ให้ความล้มเหลวกลายเป็นความสำเร็จได้อีกครั้ง

การหลงอยู่กับความสำเร็จเล็กๆ เพียงบางชั่วบางตอนจึงอาจทำให้เราติดกับดักดังกล่าว ไม่อาจก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าได้ ซึ่งคนรุ่นใหม่มีโอกาสติดอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ได้ง่ายหากไม่ระมัดระวังตัว โดยเฉพาะสายงานดิจิทัลซึ่งสำเร็จได้ง่ายและเร็ว แต่ก็ถูกเทคโนโลยีใหม่ๆ กระทบได้ง่ายเช่นกัน

รวมถึงธุรกิจเอสเอ็มอีที่อาจขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว และมีโซเชียลมีเดียเป็นตัวสร้างกระแสจนอาจทำให้เจ้าของติดอยู่ในวังวนแห่งความสำเร็จ คือหลงอยู่กับความสำเร็จในอดีตแต่ไม่ได้วางแผนรับมือกับอนาคตที่กำลังสร้างผลกระทบกับธุรกิจของตัวเอง

ตรงกันข้ามกับคนที่ใช้พลังเพื่อการปรับปรุงตัวเองเพื่อสร้างสิ่งใหม่อย่างต่อเนื่อง เพราะเขาจะเห็นโอกาสในการพัฒนาสิ่งที่ทำอยู่ในดียิ่งๆ ขึ้นไปเสมอ เมื่อถูกการเปลี่ยนแปลงโถมกระหน่ำเข้าใส่เขาก็พร้อมจะเรียนรู้และปรับตัวอีกครั้ง

ความผันผวนและวิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้นจึงไม่ทำให้เขาท้อถอย แต่กลับทำให้แข็งแรงขึ้นและพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ในอนาคตเสมอ