'Meta' เปิดฟีเจอร์ ‘AMBER Alerts’ ในไทย ดึงพลังโซเชียลช่วยหาเด็กหาย

นางสาวเอมิลี่ แวชเชอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายความเชื่อมั่นและความปลอดภัย เมตา (Meta) กล่าวว่า Meta ร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(CIB) เปิดตัวฟีเจอร์ “AMBER Alerts” บนเฟซบุ๊กและอินสตราแกรมอย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยไทยเป็นประเทศที่ 6 ในเอเชียแปซิฟิกและประเทศที่ 27 จากทั่วโลก ทั้งนี้ เป้าหมายสำคัญหวังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยตามหาเด็กหรือเยาวชนที่สูญหาย ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยให้ผู้คนที่อยู่ในพื้นที่ที่ถูกกำหนดได้รับการแจ้งเตือนจากฟีเจอร์บนหน้าฟีดเมื่อมีเด็กหรือเยาวชนถูกลักพาตัว รวมถึงที่สอบสวนกลางได้ประกาศแจ้งเตือน

โดยการเปิดตัวฟีเจอร์นี้จะทำให้การแจ้งเตือนถูกแสดงทั้งบนฟีดเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมของผู้คนที่อยู่ในพื้นที่ที่กำหนดไว้ โดยพื้นที่การแจ้งเตือนนี้จะถูกกำหนดโดยหน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมาย แต่จะไม่ใช่การส่งข้อความแจ้งเตือนโดยตรง (notification) การแจ้งเตือนบนฟีดดังกล่าวจะรวบรวมข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับเด็กหรือเยาวชนที่หายตัวไป เช่น รูปภาพ คำบรรยาย ตำแหน่งที่เกิดเหตุการณ์ลักพาตัว และข้อมูลที่มีอื่นๆ

สำหรับการเปิดตัวในวันนี้ยังเป็นการสานต่อความพยายามอย่างต่อเนื่องของพันธมิตรในการสนับสนุนชุมชนต่างๆ ในประเทศไทย และดูแลความปลอดภัยให้กับเด็กและเยาวชน และยังเป็นการสานต่อความสำเร็จของฟีเจอร์ AMBER Alerts ในระดับโลก ซึ่งได้เปิดตัวบน Facebook ตั้งแต่ปี 2558 และได้ให้ความช่วยเหลือในการตามหาเด็กหรือเยาวชนที่ตกอยู่ในอันตรายในสหรัฐและทั่วโลกมาแล้วกว่าหลายร้อยครั้ง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ทั้งเฟซบุ๊คและอินสตาแกรมต่างเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ทำให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานฟีเจอร์ AMBER Alerts ความร่วมมือครั้งนี้จะมีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดทั้งในระดับท้องถิ่นและพันธมิตรระดับโลกเพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับชุมชน

หลังจากนี้ การเริ่มต้นใช้ AMBER Alerts จะถูกนำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มความอุ่นใจให้กับพ่อแม่ผู้ปกครอง แต่ประเด็นสำคัญคือการให้พี่น้องประชาชนได้รู้จัก เข้าถึงและเข้าใจวิธีการทำงานของระบบการสื่อสารรูปแบบใหม่เหล่านี้เพื่อที่จะได้ช่วยกันแจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่หลังเกิดเหตุโดยเร็วที่สุด

พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวเสริมว่า เข้าใจดีถึงความทุกข์และความยากลำบากที่ครอบครัวและคนที่รักต้องเผชิญเมื่อมีเด็กหรือเยาวชนหายตัวไป โอกาสในการพบเด็กที่ถูกลักพาตัวจะเพิ่มขึ้น เมื่อมีผู้คนจำนวนมากขึ้นหันมาช่วยกันเฝ้าระวัง โดยเฉพาะในช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงแรกซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด

สำหรับการดำเนินงานที่เป็นระบบเช่นนี้ จะช่วยเปิดโอกาสให้สามารถแชร์ข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ให้กับกลุ่มคนที่อยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุดในการช่วยเหลือเพื่อช่วยให้ครอบครัวมีโอกาสที่พบกับเด็กหรือเยาวชนที่สูญหายได้มากขึ้น

นางเตือนใจ คงสมบัติ รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กล่าวว่า เด็กและเยาวชนเป็นปัจจัยสำคัญของการพัฒนาประเทศ การเปิดตัวในวันนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องให้กับเครือข่ายในการปกป้องดูแลเด็กและเยาวชนทุกคน อีกทั้งยังเป็นการดำเนินงานเชิงรุกในการตามหาเด็กหรือเยาวชนที่สูญหายและกำหนดแนวทางในการจัดการแก้ไขปัญหาดังกล่าว