หุ้นทวิตเตอร์ดิ่ง 19% หลัง "อีลอน มัสก์" เลื่อนซื้อกิจการ เหตุปมบัญชีปลอม
อีลอน มัสก์ ทวีตวันศุกร์ (13 พ.ค.) ว่า ได้ตัดสินใจเลื่อนการซื้อกิจการทวิตเตอร์ออกไปก่อน จนกว่าบริษัทจะสามารถให้รายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีปลอมและบัญชีสแปมว่ามีจำนวนเท่าใด ซึ่งการทวีตของมัสก์ ส่งผลให้ราคาหุ้นของทวิตเตอร์ปรับตัวร่วงลง 19%
มัสก์ ตัดสินใจทวีตข้อความดังกล่าวหลังจากบริษัทประเมินว่ามีบัญชีปลอมและบัญชีสแปมในระบบไม่ถึง 5% ของบัญชีที่สามารถหารายได้ในแต่ละวัน หรือที่บริษัทเรียกว่า Monetizable Daily Active Users โดยไตรมาสที่ผ่านมา ทวิตเตอร์มีผู้ใช้งานประมาณวันละ 229 ล้านบัญชีเท่ากับมีบัญชีปลอมอยู่แค่ 11.45 ล้านบัญชี
แต่มัสก์ไม่เชื่อตัวเลขบัญชีปลอมนี้ เขาอยากดูหลักฐานรายละเอียดการคำนวณบัญชีปลอมก่อนจึงตัดสินใจเลื่อนการทำข้อตกลงซื้อกิจการทวิตเตอร์ออกไปก่อนชั่วคราว
เมื่อวันที่ 26เม.ย. มัสก์มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก บรรลุข้อตกลงเข้าซื้อกิจการทวิตเตอร์ เครือข่ายสื่อสังคมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยมูลค่า 54.20 ดอลลาร์ ต่อหุ้น รวม 44,000 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญภายหลังการก่อตั้งบริษัท 16 ปี
ช่วงต้นเดือนเม.ย. มีรายงานข่าวว่ามัสก์จะเข้าซื้อหุ้น 9.2% ของบริษัททวิตเตอร์และกลายเป็นผู้ถือหุ้นสูงสุดของบริษัท โดยไม่เข้าร่วมนั่งในคณะกรรมการบริหารของบริษัท ซึ่งในขณะนั้นผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากมัสก์กำลังมีแผนการใหญ่มากกว่าเข้าซื้อหุ้นและเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เพียงอย่างเดียว