"ดอน" หารือ รมว.ท่องเที่ยวซาอุฯ กรุยทางธุรกิจไทย Hospitality - ดูแลสุขภาพ
"ดอน ปรมัตถ์วินัย" หารือรัฐรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวซาอุฯ เปิดทางให้กับภาคเอกชนไทยได้แสดงศักยภาพทางธุรกิจด้านบริการโรงแรมและดูแลสุขภาพ หลังที่ซาอุฯ มีแผนพัฒนาประเทศเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับเวิลด์คลาส
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การท่องเที่ยวเป็นประเด็นที่มกุฏราชกุมารซาอุฯ ได้ให้ความสำคัญและเคยหยิบขึ้นพูดคุยกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งที่พบปะกันเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อนำไปสู่การฟื้นฟูการเดินทางไปมาระดับประชาชนระหว่างกัน
"ตามที่ได้มีการเปิดเที่ยวบินตรงจากกรุงริยาดไปยังกรุงเทพมหานครแล้ว ทำให้ขณะนี้มีคนซาอุฯจำนวนมากเดินทางมายังประเทศไทย และเป็นจำนวนสูงเป็นอันดับต้นๆ ในกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ ขณะเดียวกัน เราใฝ่ฝันอยากให้การเดินทางไปซาอุฯได้สะดวกเช่นกัน ทำให้มีการหารือถึงวีซ่าให้กับคนไทยไปในระหว่างนี้" ดอนกล่าว
นายดอน กล่าวอีกว่า ซาอุฯได้วางแผนที่จะพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวริมทะเลแดง และการท่องเที่ยวของประเทศ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ซึ่งเป็นประเด็นที่รัฐมนตรีท่องเที่ยวซาอุฯได้หยิบยกขึ้นหารือกับตนเอง และจะเป็นการเปิดให้ภาคเอกชนไทยได้เติมเต็มธุรกิจใหม่ๆหลายด้าน เช่น การบริการและโรงแรม (hospitality ) ดูแลสุขภาพ และการท่องเที่ยว
ขณะเดียวกัน ซาอุฯต้องการแรงงานไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงการพัฒนาการท่องเที่ยวซาอุฯ เช่น แรงงานภาคการก่อสร้าง โรงแรม ภาคบริการอย่างน้อยๆ ต้องการแรงงานทั้งหมดประมาณ 5 แสนตำแหน่ง โดยในจำนวนนี้จะแบ่งโควตาให้กับไทยจำนวน 2 แสนตำแหน่ง ซึ่งแรงงานไทยสามารถพัฒนาทักษะให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานในซาอุฯได้
อย่างไรก็ตาม ทางรัฐมนตรีท่องเที่ยวซาอุฯ ต้องการเชิญชวนภาคเอกชนไทยจัดโรดโชว์การท่องเที่ยวที่นี่ ด้วย
นายดอน กล่าวด้วยว่า ในการหารือกับรัฐมนตรีกระทรวงการลงทุนซาอุฯ ได้พูดคุยเรื่องน้ำมันและแก๊สกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงการลงทุนซาอุฯ บอกว่า รู้สึกกระหายและหิว (thirst amd hungry) ความสัมพันธ์และความร่วมมือกับไทย ซึ่งสอดคล้องกับประธานอารามโกที่ได้พบปะกันก่อนหน้านี้ที่ได้แสดงความปรารถนาร่วมมือกับไทยในเรื่องพลังงานไฮโดรเจนสีฟ้า (Blue hydrogen) พลังงานสะอาด
เมื่อถามการเยือนของมกุฏราชกุมารซาอุฯ และการร่างโรดแมปเพื่อสานต่อความร่วมมือไทย-ซาอุดีอาระเบีย นายดอนกล่าวว่า ถ้าสามารถร่างโรดแมปฯ ได้เรียบร้อยก็ถือว่าเสร็จก่อน 2 เดือนตามที่ระบุไว้ให้สอดคล้องกับช่วงที่มกุฏราชกุมารซาอุฯ จะทรงเสด็จฯ หลังเดือน ก.ค. สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงการเตรียมงานและความพร้อมระหว่างไทยและซาอุฯ ที่ตั้งให้การฟื้นฟูความสัมพันธ์และความร่วมมือมีขึ้นรวดเร็ว พร้อมกับเป็นรูปธรรมด้วย
อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งเอกอัครราชทูตไทย ประจำซาอุฯ คาดจะเกิดขึ้นในไตรมาสสามของปีนี้ เพราะทั้งสองฝ่ายมีความเห็น ปรารถนาและต้องการให้เกิดผลลัพธ์พร้อมเพรียงกัน