คุก 20 เดือน ชายญี่ปุ่นทำร้าย ‘ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์’

คุก 20 เดือน ชายญี่ปุ่นทำร้าย ‘ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์’

ศาลญี่ปุ่นตัดสินใจจำคุกชายญี่ปุ่นเป็นเวลา 20 เดือน โทษฐานทำร้าย “ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์” นักวิชาการ และอดีตนักการทูต ผู้ต้องลี้ภัยมาอยู่เกียวโตหลังวิจารณ์ทหาร และสถาบันเบื้องสูง

ศาลแขวงเกียวโตที่ ปวิน อดีตนักการทูตใช้ชีวิตในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ยืนยันคำพิพากษากับสำนักข่าวเอเอฟพี โดย นายทัตสึฮิโกะ ซาโตะ วัย 43 ปี สารภาพเมื่อเดือนก่อนว่าบุกเข้าไปทำร้าย นายปวิน และเพื่อนอีกคนหนึ่งด้วยแก๊สน้ำตาถึงบ้านเมื่อปี 2562

 ปวิน วัย 51 ปี ซึ่งเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยเกียวโต สงสัยว่าการทำร้ายตนถูกวางแผนมาจากเมืองไทย เพราะตนไม่มีศัตรูที่ญี่ปุ่น และไม่เคยร่วมกิจกรรมทางการเมืองใดๆ บนแผ่นดินญี่ปุ่น

“ผมพอใจกับคำพิพากษา แต่ต้องเอาตัวคนที่อยู่เบื้องหลังการทำร้ายครั้งนี้มาดำเนินคดีด้วย”

สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค รายงานว่า ตอน นายซาโตะให้การครั้งแรกเมื่อเดือนก่อน อัยการเสนอโทษจำคุกสองปี โดยให้เหตุผลว่า เป็นการทำร้ายที่วางแผนไว้ตามคำสั่งจากผู้สมรู้ร่วมคิด

ขณะที่ปวิน กล่าวว่า เขาไม่รู้จักนายซาโตะ ไม่เคยพบกันมาก่อนเกิดเหตุ ที่สร้างความบอบช้ำให้กับตน

“ชายผู้นี้อาจเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมเพราะมีรถบีเอ็มดับเบิลยูมาจอดคอยเขา ผมนอนไม่หลับเลยยามค่ำคืน ต้องติดกล้องวงจรปิดในบ้านอย่างน้อยห้าตัวเพิ่มเติมจากตัวล็อกพิเศษและสัญญาณกันขโมย”

องค์กรสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรท์วอทช์ รายงานว่า ผู้เห็นต่างทางการเมืองชาวไทยอย่างน้อย 9 คน หนีคดีการเมืองไปยังประเทศเพื่อนบ้านในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ที่โด่งดังที่สุดรายหนึ่งคือ การหายตัวไปของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ นักเคลื่อนไหวสนับสนุนประชาธิปไตย ที่ถูกกลุ่มชายมีอาวุธลักพาตัวไปกลางวันแสกๆ ในกรุงพนมเปญ ของกัมพูชาเมื่อปี 2563 และยังคงไม่พบตัวจนบัดนี้

สำหรับปวิน ผู้เปรียบเสมือนเสี้ยนหนามของกองทัพตั้งแต่ยึดอำนาจในปี 2557 กล่าวหากองทัพเมื่อปี 2559 ว่า คุกคามครอบครัวของตนในประเทศไทย

กรุงเทพธุรกิจ ตรวจสอบความเคลื่อนไหวบนเฟซบุ๊กของปวิน เมื่อราว 17.40 น. วันนี้ พบว่า เมื่อสิบชั่วโมงก่อนหน้านั้นเขาโพสต์ข้อความ

"วันนี้ดิฉันจะไปศาลญี่ปุ่น เพื่อฟังคำพิพากษาคดีดิฉันถูกทำร้ายค่ะ

Will attend the final court hearing today on my case being attacked in Kyoto." พร้อมลงภาพตนเองและคู่ชีวิต ถัดมาเป็นการแชร์ข่าวสื่อไทยที่รายงานคำพิพากษาดังกล่าว

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์