'โนมูระ'คาดศก.สหรัฐถดถอยปลายปีนี้ผลพวงเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย
นายอิชิ อาเมมิยะ และนายโรเบิร์ต เดนท์ นักวิเคราะห์จากธนาคารโนมูระคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยเล็กน้อยในช่วงปลายปี 2565 เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
"เราคาดว่าเฟดจะยังใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินต่อไป ขณะที่ผู้บริโภคจะเผชิญกับผลกระทบด้านลบจากการปรับขึ้นดอกเบี้ย รวมทั้งปัญหาห่วงโซ่อุปทานด้านอาหารและพลังงานที่ย่ำแย่ลง เราเชื่อว่าการที่เฟดแสดงความมุ่งมั่นที่จะรักษาเสถียรภาพของเงินเฟ้อด้วยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงขึ้นเพื่อฉุดตัวเลขเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% นั้น จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยเล็กน้อยในไตรมาส 4 ปีนี้" นักวิเคราะห์ของโนมูระกล่าว
การคาดการณ์ดังกล่าว สวนทางกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ และนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐซึ่งต่างก็เชื่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้ เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงแข็งแกร่ง
นักวิเคราะห์ของโนมูระ กล่าวว่า แม้ว่าความแข็งแกร่งของงบดุลบัญชีผู้บริโภคและเงินออมส่วนเกินของผู้บริโภค จะช่วยชะลอการหดตัวของเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่ง แต่การที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงขึ้นและเร็วขึ้นเพื่อที่จะสกัดเงินเฟ้อ ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อหลายภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งรวมถึงภาคครัวเรือน
ทั้งนี้ โนมูระได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐในปี 2565 ลงสู่ระดับ 1.8% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.5% และปรับลดคาดการณ์จีดีพีปี 2566 ลงเหลือ 1% จากเดิม 1.3%
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมเดือนก.ค. หลังจากที่ได้ปรับขึ้นไปแล้ว 0.75% ในการประชุมล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.
นอกจากนี้ ในการประชุมวันดังกล่าว เฟดยังเปิดเผยการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับ 3.4% ในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1.75% ภายในปีนี้
และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.8% ในสิ้นปี 2566 และชะลอตัวสู่ระดับ 3.4% ในปี 2567 ขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยะยาวอยู่ที่ 2.5%