ถอดบทเรียนแต่ละประเทศกำหนดสถานะของ"กัญชา"

ถอดบทเรียนแต่ละประเทศกำหนดสถานะของ"กัญชา"

เมื่อประเทศไทยปลดล็อกกัญชา ทำให้การปลูกกัญชาในครัวเรือน ใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือใช้ในทางการแพทย์ได้ มาดูกันว่าในต่างประเทศนั้น มีที่ใดบ้างที่เปิดเสรีกัญชาอย่างแท้จริง ที่ใดบ้างยังให้กัญชาเป็นสิ่งถูกกฏหมายเพียงบางส่วน และที่ใดบ้างที่ระบุว่าเป็นยาเสพติด

1. อุรุกวัย

    อุรุกวัย เป็นประเทศแรกของโลกที่ทำให้การบริโภคยาเสพติดตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงการจัดจำหน่ายเป็นสิ่งถูกกฎหมายและเริ่มจำหน่ายกัญชาให้แก่ผู้ที่ได้ลงทะเบียนไว้วันที่ 19 ก.ค.ปี 2560 เป็นวันเเรก ทำให้การลงชื่อเพื่อซื้อกัญชากับทางการใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ง่ายกว่าการกรอกเอกสารเพื่อขออาศัยอยู่ในประเทศด้วยซ้ำ

2.แคนาดา

   กัญชาในแคนาดาสามารถถูกใช้ได้ทั้งในเชิงการแพทย์และสันทนาการ โดยประชาชนที่บรรลุนิติภาวะแล้วสามารถซื้อผลผลิตจากกัญชาได้จากร้านค้าและผู้ผลิตที่ได้รับกาารับรองตามกฎหมายเท่านั้น 

   ส่วนร้านค้าห้ามขายกัญชาดิบ หรือผลผลิตจากกัญชาให้แก่เด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี หากฝ่าฝืนจะถูกจำคุก 14 ปี สามารถครอบครองกัญชาได้สูงสุด 30 กรัม ปลูกได้สูงสุด 4 ต้นต่อครัวเรือน และยังอนุญาตให้ใช้กัญชาในทางการแพทย์ได้อีกด้วย
 

3. สาธารณรัฐแอฟริกาใต้

    ศาลรัฐธรรมนูญแอฟริกาใต้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ปี2561 อนุญาตให้พลเมืองที่บรรลุนิติภาวะแล้ว สามารถปลูกและบริโภคกัญชาในพื้นที่ส่วนตัวได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แม้รัฐบาลจะคัดค้านมติดังกล่าวก็ตาม โดยให้รัฐบาลปรับเปลี่ยนกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ ให้สอดคล้องกับมติดังกล่าวภายใน 24 เดือนนับจากนี้

    แม้จะมีการอนุญาตให้ปลูกและบริโภคกัญชาในพื้นที่ส่วนตัวได้ แต่การบริโภคพืชชนิดนี้ในพื้นที่สาธารณะ รวมถึงการขายและจัดส่งให้กันยังถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย

4. เนเธอร์แลนด์ 

      กัญชาถือเป็น soft drug หรือยาเสพติดชนิดร้ายแรงน้อยในเนเธอร์แลนด์ ดังนั้นการจำหน่ายกัญชาโดยสถานประกอบการซึ่งได้แก่ คอฟฟีชอป ถือเป็นความผิดทางอาญา แต่คอฟฟีชอปจะไม่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาโดยรัฐ เพราะมีข้อผ่อนปรน โดยต้องไม่ก่อให้เกิดปัญหารบกวนสาธารณะ 

      ไม่จำหน่ายยาเสพติดให้โทษรุนแรง ไม่จำหน่ายกัญชาให้กับผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ห้ามทำการโฆษณา ห้ามจำหน่ายกัญชาในปริมาณที่สูงเกินกว่า 5 กรัม ต่อการซื้อขาย 1 ครั้ง อีกทั้งคอฟฟีชอปต้องได้รับอนุญาตจากเทศบาลท้องถิ่น ซึ่งแต่ละเทศบาลอาจไม่อนุญาตให้เปิดกิจการประเภทนี้ก็ได้

     นอกจากนี้ ในเนเธอร์แลนด์ยังห้ามเสพกัญชาในที่สาธารณะ ทั้งนี้ การครอบครองกัญชาสำหรับประชาชนทั่วไปจะไม่ถูกดำเนินคดีหากมีกัญชาในครอบครองปริมาณไม่เกิน 5 กรัม หรือ 5 ต้น ต่อ 1 คน

     กัญชาที่มี THC เกินกว่า 15% ถือเป็นยาเสพติดรุนแรงและผิดกฎหมาย และห้ามปลูกกัญชาเพื่อการพาณิชย์ โดยประชาชนทั่วไปสามารถปลูกกัญชาเพื่อการเสพส่วนตัวได้ไม่เกินครัวเรือนละ 5 ต้น
 

5. สเปน

     อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีกฎหมายให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ และการสันทนาการแบบมีเงื่อนไข (จำกัดปริมาณการใช้อนุพันธ์ของกัญชา) หรือให้ใช้บางรัฐ

6.เบลเยียม

       อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีกฎหมายให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ และการสันทนาการแบบมีเงื่อนไข (จำกัดปริมาณการใช้อนุพันธ์ของกัญชา) หรือให้ใช้บางรัฐ

7.สหรัฐ

     การใช้กัญชาเชิงสันทนาการในสหรัฐได้รับการรับรองใน 19 มลรัฐ และสามารถใช้ในทางการแพทย์ได้ใน 37 มลรัฐ

     กรณีรัฐโคโลราโด รัฐธรรมนูญแห่งรัฐโคโลราโด (Colorado Constitution of 1876, 2017) กำหนดว่า 1. บุคคลที่ที่อายุ 21 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป สามารถใช้กัญชาได้ภายใด้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด

   2.การใช้กัญชาต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดโดยกฎหมายจะควบคุมกัญชาเช่นเดียวกับควบคุมสุรา ดังนี้    2.1 บุคคลต้องแจ้งอายุก่อนซื้อกัญชา

   2.2 การขาย หรือการส่งกัญชาไปยังผู้เยาว์หรือผู้มีอายุต่ำกว่า 21 ปี บริบูรณ์ เป็นสิ่งผิดกฎหมาย  2.3 ห้ามผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมากัญชา

    3. การครอบครอง การใช้ การนำออกแสดง การขนส่งส่วนประกอบของกัญชา น้ำหนักไม่เกิน 1 ออนซ์สามารถทำได้

8.อังกฤษ

    อยู่ในกลุ่ม 13 ประเทศที่ให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ได้อย่างถูกกฎหมาย แต่ใช้เพื่อสันทนาการเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ซึ่งนอกจากอังกฤษแล้ว มี นิวซีแลนด์ ศรีลังกา เดนมาร์ก นอร์เวย์ ไอร์แลนด์ กรีซ  มาซิโดเนีย และวานูอาตู

    ส่วนประเทศที่ไม่อนุญาตให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ แต่มีการลักลอบใช้เพื่อสันทนาการมี 19 ประเทศ รวมถึง บังกลาเทศ กัมพูชา เมียนมา ลาว อินเดีย อิหร่าน เอกวาดอร์ อียิปต์ เนปาล ปากีสถาน และโบลิเวีย