ราคาข้าวสาลีตลาดโลกพุ่ง หลังรัสเซียถล่มท่าเรือยูเครน
ราคาสัญญาล่วงหน้าข้าวสาลีที่มีการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT พุ่งขึ้น 3% สู่ระดับ 7.8 ดอลลาร์/บุชเชลในวันจันทร์(25ก.ค.) หลังจากรัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มท่าเรือเมืองโอเดสซาทางตอนใต้ของยูเครนเมื่อวันเสาร์ (23ก.ค.)ที่ผ่านมา
เมื่อวันศุกร์(22ก.ค) ราคาสัญญาข้าวสาลีดิ่งลงเกือบ 6% แตะระดับก่อนเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน หลังมีการลงนามในข้อตกลงส่งออกธัญพืชยูเครน
ด้านนายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า การที่รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มท่าเรือเมืองโอเดสซาจะไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกธัญพืชของยูเครน
นายเพสคอฟกล่าวว่า การโจมตีของรัสเซียมีเป้าหมายที่โครงสร้างพื้นฐานทางทหาร โดยไม่เกี่ยวข้องกับการส่งออกธัญพืชแต่อย่างใด และจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเริ่มต้นการขนส่งสินค้าดังกล่าว
ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ตอบโต้การโจมตีดังกล่าวว่าเป็น "ความป่าเถื่อน" แบบโจ่งแจ้ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่อาจไว้วางใจรัสเซียได้ว่าจะปฏิบัติตามข้อตกลง
ทั้งนี้ รัสเซียและยูเครนได้ลงนามในข้อตกลงส่งออกธัญพืชเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยประธานาธิบดีเรเซป เตย์ยิป เออร์ดวน ของตุรกี และนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนาม ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยคลี่คลายวิกฤตอาหารทั่วโลก โดยจะทำให้มีการส่งออกธัญพืชจากท่าเรือในทะเลดำ รวมถึงท่าเรือโอเดสซา
ข้อตกลงฉบับนี้จะช่วยฟื้นฟูการส่งออกธัญพืชจากยูเครนและรัสเซีย ซึ่งต่างก็เป็นผู้ส่งออกข้าวสาลี ข้าวโพด น้ำมันพืช และปุ๋ยรายใหญ่ของโลก รวมทั้งช่วยคลี่คลายปัญหาห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก และคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ด้านอาหาร
โดยจะทำให้มีการระบายธัญพืชของยูเครนจำนวนมากกว่า 20 ล้านตันซึ่งยังคงตกค้างอยู่ที่ท่าเรือในทะเลดำ นับตั้งแต่ที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนในเดือนก.พ.