เอสแอนด์พีคาดยอดขายอสังหาฯจีนดิ่ง 30%
เอสแอนด์พีโกลบอลเรทติ้ง คาดว่ายอดขายอสังหาริมทัพย์ของจีนปีนี้จะลดลงมากกว่าช่วงวิกฤติการเงินเมื่อปี 2551
เว็บไซต์ซีเอ็นบีซีรายงาน บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ “เอสแอนด์พีโกลบอลเรทติ้ง” เผยว่า ยอดขายอสังหาริมทรัพย์จีนปีนี้จะร่วงลง 30% แย่กว่าที่คาดการณ์ไว้เกือบ 2 เท่า เนื่องจากผู้ซื้อบ้านชาวจีนระงับการชำระค่างวด
เอสเทอร์ หลิว ผู้อำนวยการเอสแอนด์พีโกลบอลเรทติ้ง กล่าวว่า สถานการณ์นี้ยังแย่กว่าเมื่อปี 2551 ที่ยอดขายขายบ้านลดลงราว 20% ด้วย
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปลายเดือน มิ.ย. ตัวเลขไม่เป็นทางการชี้ว่า ผู้ซื้อบ้านชาวจีนจำนวนมากขึ้นไม่ยอมผ่อนค่าบ้านในหลายร้อยโครงการที่ยังสร้างไม่เสร็จ รอจนกว่าเจ้าของโครงการจะก่อสร้างให้แล้วเสร็จเสียก่อน โดยส่วนใหญ่บริษัทอสังหาฯจะขายบ้านก่อนสร้างบ้านเสร็จ เพื่อนำเงินสดไปหมุนเวียนใช้จ่ายในธุรกิจอื่น ๆ ต่อไป แต่สองปีที่ผ่านมาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างหนี้เพื่อการเติบโตถูกรัฐบาลปักกิ่งเล่นงานจนขาดแคลนเงินสด
หลิวกล่าวว่า การประท้วงไม่ผ่อนบ้านกำลังทำลายความเชื่อมั่นของตลาด ชะลอการฟื้นตัวของภาคอสังหาฯ จีนจากปีนี้เป็นปีหน้า และเมื่อยอดขายที่อยู่อาศัยลดลง บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มประสบปัญหาการเงิน “ถ้าควบคุมสถานการณ์ไม่ได้”อาจบานปลายไปถึงบริษัทที่มีสถานะทางการเงินดีกว่าด้วย และถ้าลูกค้าไม่ได้ที่อยู่ที่จ่ายเงินไปแล้วก็อาจเกิดความไม่สงบทางสังคมตามมา
อย่างไรก็ตาม การประท้วงไม่ผ่อนบ้านจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาสองถึงสามสัปดาห์ แต่นักวิเคราะห์ไม่คาดวาจะเกิดวิกฤติการเงินอย่างเป็นระบบ รายงานอีกชิ้นหนึ่งของเอสแอนด์พีชี้ว่า การไม่ผ่อนบ้านอาจส่งผลต่อสินเชื้อบ้าน 974 แสนล้านหยวน คิดเป็น2.5% ของสินเชื่อบ้านจีน หรือ 0.5% ของสินเชื่อทั้งหมดแต่หากราคาบ้านลดลงอย่างรุนแรงอาจกระทบต่อความมั่นคงทางการเงินได้
รัฐบาลจีนจึงผลักดันให้ธนาคารช่วยเหลือบริษัทอสังฯหา เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสร้างที่อยู่อาศัยให้เสร็จ และยึดถือคติที่ว่า “บ้านมีไว้อยู่อาศัย ไม่ใช่เก็งกำไร” แต่หลิวกังวลว่าการช่วยเหลือของรัฐบาลยังไม่มากพอกอบกู้สถานการณ์ที่ตอนนี้กำลังเลวร้ายลงทุกขณะ