'Premium Taste of America' เปิด 7 เมนูท้าทายคนรักสุขภาพ

เทศกาลอาหาร “Premium Taste of America” กลับมาอีกครั้งในปี 2565 ซึ่งกระทรวงเกษตรประเทศอเมริกา (USDA) ประจำสถานทูตสหรัฐอเมริกา ประเทศไทย นำขบวนผลิตภัณฑ์สินค้าระดับพรีเมียมจากหลากหลายรัฐ ร่วมมือกับร้านอาหารสุขภาพสลัดแฟคทอรี่ (Salad Factory) จัดแคมเปญขานรับกระแสรักสุขภาพ เพื่อรังสรรค์เมนูพิเศษให้ลูกค้าได้รับประทานอาหารจากแหล่งผลิตที่ดีเยี่ยม 7 เมนูสำหรับกลุ่มคนรักสุขภาพ คนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจเรื่องอาหารการกิน และครอบครัว

“แอริค มูลิส” ผู้ช่วยที่ปรึกษาทูตฝ่ายกิจการเกษตร  สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรของสหรัฐเป็นวัตถุดิบสุดพรีเมียมถูกรังสรรค์เป็น "เมนูสไตล์โฮมเมด" ในเทศกาลพรีเมียม เทสต์ ออฟ อเมริกา ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการแลกเปลี่ยน "วัฒนธรรมทางอาหาร" ที่จะทำให้ผู้บริโภคชาวไทยสามารถสัมผัสความพิเศษในทุกๆคำที่ได้รับประทาน

 

"สิ่งสำคัญที่สุด ผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรที่นำเข้าจากสหรัฐ สามารถสืบหาที่มาตั้งแต่ต้นทางการปลูกหรือเลี้ยง ไปจนถึงปลายทางการผลิตแปรรูปและกระบวนการจัดส่งที่ได้มาตรฐาน ซึ่งชาวสวนชาวไร่ในอเมริกา  เน้นเลี้ยงวัวด้วยอาหารธัญพืชและปลูกผักตามแนวทางเกษตรอินทรีย์ ทำให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัย  ไร้สารเคมีและคงกลิ่น รสชาติ คุณภาพอาหารเหมือนเดิม ยิ่งจะช่วยดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจไปพร้อมๆกัน" ผู้ช่วยที่ปรึกษาทูตฝ่ายกิจการเกษตรเล่า 

"ปิยะ ดั่นคุ้ม" ซีอีโอของ Salad Factory กล่าวว่า ทางร้านได้นำสินค้าผลิตภัณฑ์อาหารของสหรัฐที่ได้มาตรฐาน มีประวัติยาวนานสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น  นำมาสร้างสรรค์เป็นเมนูพิเศษในช่วงเทศกาล Premium Taste of America โดยส่วนประกอบและวัตถุดิบที่จัดได้ว่าดีที่สุดในโลก

ปิยะ ยกตัวอย่างเช่น เนื้อส่วนท้อง (U.S. Short Plate) และปลาจินดาระ (Alaska Black Cod) หอยเชลล์ มันฝรั่งสหรัฐ ครีมชีสแคลิฟอร์เนีย และวอชิงตันแอ๊ปเปิ้ล นำมาผสมผสานกับเสน่ห์เครื่องปรุงและวัตถุดิบของไทย เช่น ผักสลัดอินทรีย์ ผลไม้ น้ำสลัดแบบโฮมเมดซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของร้าน รวมทั้งวัตถุดิบอื่นๆที่ปรุงขึ้นเพื่อเมนูพิเศษ 

 

 สถานทูตสหรัฐฯ  แนะนำเมนูเริ่มจากจานแรกชื่อ U.S. Beef Short Plate Rock&Roll และเมนูที่2 U.S. Beef Short Plate Cobb Salad  ปรุงจากเนื้อวัวส่วนท้องมีชั้นส่วนมันแทรกบางๆ ให้ความนุ่มและกลมกล่อมเมื่อนำมาประกอบอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เกษตรกรสหรัฐเลี้ยงวัวด้วยอาหารธัญพืช ยิ่งทำให้เมื่อเนื้อวัวโดนไฟจะได้กลิ่มหอมและมีรสชาติละมุนลิ้นผู้รับประทาน

เมนูที่3  Fried Alaska Black Cod Steak  ปรุงจากปลาแบล็คค็อดอลาสก้าที่จับแบบธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการประมงที่ยั่งยืน

 

เมนูที่4  U.S. Scallop in Yellow Marine ทำจากหอยเชลล์ (Scallop) ที่มีวิธีการเลี้ยงแบบธรรมชาติ สำหรับในสหรัฐมีอยู่สองประเภทคือ ชนิดสแกลลอปเลี้ยงกับสแกลลอปทะเล โดยส่วนใหญ่เก็บหอยชนิดนี้กันมากในรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ เช่น นิวเจอร์ซีย์เวอร์จิเนีย แมสซาชูเซตส์ นอกจากนี้ ยังมาจากอลาสก้าซึ่งอยู่ฝั่งตะวันตก ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดไปจรดตอนบนของรัฐ อยากให้มาลองเพราะสแกลลอปในแต่ละรัฐก็มีขนาด ระดับความเด้งของเนื้อหอย และรสชาติแตกต่างกัน

"ไกรภพ แพ่งสภา" ตัวแทนคณะกรรมการมันฝรั่งสหรัฐของประเทศไทย บรรยายว่า เมนูที่6 American Potato Croquette ทำจากมันฝรั่งอเมริกา  ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศปลูกมันฝรั่งคุณภาพสูงมากที่สุดในโลก เพราะมีกรรมวิธีการปลูกที่มีแบบฉบับเฉพาะ ซึ่งองค์กรเกษตรกรปลูกมันฝรั่งในสหรัฐเป็นหน่วยงานช่วยโปรโมทผลผลิตที่มาจากสวนมันฝรั่งทั่วประเทศ

 

 

 

ภายในงานนี้มีเมนูแนะเป็นมันฝรั่งบด ประกอบเข้ากับมอสซาเรลล่าชีสและผักขม ที่สามารถเป็นทั้งเมนูรักสุขภาพและมังสวิรัติ ซึ่งข้อดีของมันฝรั่งมีวิตามินซีสูง และยังมีวิตามินเค บี6 ธาตุเหล็ก รวมทั้งคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงาน กินอิ่มอยู่ท้อง ที่สำคัญมีกรดคาเฟอิก สารต้านอนุมูลอิสระซ่อมแซมเซลล์

"ธีรวี อังกุวรกุล" วอชิงตัน ตัวแทนแอปเปิลคอมมิชชั่น ประจำประเทศไทย เล่าว่าเมนูที่6 Washington Apple Pie Smoothie  เป็นเมนูครีเอทขึ้นมาใหม่สำหรับเทศกาลนี้เพื่อเป็นสแน็กดิ้งส์ (Snack drinks) ให้ความเท่ห์  ดื่มแล้วมีความสุข อร่อย สดชื่น และสุขภาพดี ถ้าพูดถึงวอชิงตันแอ๊ปเปิ้ลจะให้ภาพจำว่าเป็นผลไม้ที่ได้มาตรฐานยูเอสเอที่กำหนดกระบวนการเพาะปลูก

 

 

แอ๊ปเปิ้ลจากรัฐวอชิงตันปลูกมายาวนานกว่า 200 ปี มีการพัฒนาสายพันธุ์ต่างๆมากมาย แต่สำหรับวอชิงตันแอ๊ปเปิ้ลที่นำมาจัดทำเป็นเมนูครั้งนี้เป็นพันธุ์ยอดนิยมที่คนไทยคุ้นเคยมาตั้งแต่วัยเด็กคือ "พันธุ์แอ๊ปเปิ้ลแดง" (Red Delicious Apple) มีความโดดเด่นที่เนื้อของแอ๊ปเปิ๊ลมีรสชาติสม่ำเสมอ ไม่ว่าช่วงที่ร้อน ฝนตกหรืออากาศเปลี่ยนแปลงอย่างไร สายพันธุ์นี้ทนทานรสชาติยังคงเดิม  เหมือนวอชิงตันแอ๊ปเปิ้ลพายสมูตตี้ที่ท้าทายให้มาเปิดประสบการณ์ใหม่

 

"ชญาดา อังกุวรกุล" ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจของคณะกรรมการที่ปรึกษาแคลิฟอร์เนียมิลล์ กล่าวว่า เมนูที่7 Yuzu Honey California Cheesecake เป็นเมนูของหวานให้ได้ลิ้มลองความครีมมี่ของชีสจากแคลิฟอร์เนีย อาจจะผลิตภัณฑ์นำเข้าน้องใหม่มายังประเทศไทยไม่กี่ปีมานี้ แต่อุตสาหกรรมนมและชีสจัดอยู่อันดับหนึ่งประเภทสินค้าพรีเมียมของสหรัฐ อีกทั้งแคลิฟอร์เนียยังเป็นรัฐที่ผลิตนมได้มากที่สุดของประเทศ และสหรัฐก็เป็นประเทศผลิตนมเป็นอันดับหนึ่งของโลก เราเองได้ให้ความสำคัญกับคำว่า Real food หรืออาหารที่เน้นรสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบ รวมถึงการเป็นอาหารหลัก และวัตถุที่นำไปประกอบอาหารในหลากหลายเมนู ล้วนต้องคำนึงคุณภาพนมและชีสที่ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง ดังนั้นเกษตรกรผู้เลี้ยงนมวัวในรัฐแคลิฟอร์เนียจึงมีความใส่ใจให้กินอาหารธัญพืช โดยให้สังเกตว่า สีนมจากแคลิฟอร์เนียจะเป็นสีขาวนวล และรสชาติจะไม่คาว ถือว่ามีความธรรมชาติมากๆ

เมนูพิเศษ 7 สไตล์แต่มีเป้าหมายหนึ่งเดียวเพื่อคนรักสุขภาพ พร้อมเสริฟในแคมเปญ “Premium Taste of America”  หวังเติมเต็มความสุขให้กับคนไทยสายสุขภาพได้ตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค. – 26 ก.ย. 2565