ประกันภัยเกาหลีใต้อ่วมหลังน้ำท่วมใหญ่เริ่มลด

   สื่อท้องถิ่นของเกาหลีใต้รายงานวานนี้ (9 ส.ค.) ว่า ในการสำรวจ ความเสียหาย หลังน้ำท่วมในกรุงโซลเริ่มลดลง ทางการพบว่า มีรถยนต์ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมจำนวนมากกว่า 1,000 คัน

ทั้งนี้ ภาวะฝนตกหนัก จนเกิด น้ำท่วมฉับพลัน ในกรุงโซลและจังหวัดรอบข้าง ทั้งเมื่อคืนวันจันทร์ (8 ส.ค.) และเช้าวันนี้ (9 ส.ค.) ทำให้บรรดาบริษัทประกันภัยต้องกุมขมับกับจำนวนรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมเป็นจำนวนมากกว่าพันคัน

บริษัทประกันภัยรายใหญ่บางราย อย่าง ซัมซุง ไฟเออร์ แอนด์ มารีน อินชัวรันซ์ (Samsung Fire & Marine Insurance) และบริษัท ดีบี อินชัวรันซ์ (DB Insurance) ได้รับรายงานแจ้งความเสียหายจากผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยจำนวนหลายร้อยรายภายในชั่วข้ามคืน โดยมูลค่าความเสียที่ลูกค้าเคลมเข้ามานั้นมีถึงระดับหลายพันล้านวอน หรือหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนบริษัทประกันภัยรายย่อย ก็ได้รับแจ้งความเสียหายเข้ามาในเบื้องต้นจำนวนมากเช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านอุบัติภัยของเกาหลีใต้ระบุว่า รถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมฉับพลันครั้งนี้อาจจะมีมากกว่า 2,000 คันด้วยซ้ำ

 ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาเกาหลีใต้เตือนประชาชนที่อาศัยในกรุงโซลและพื้นที่ใกล้เคียง เตรียมรับฝนถล่มระลอกใหม่ในสัปดาห์นี้ โดยจะมีฝนตกหนักไปจนถึงวันพุธ(10 ส.ค.) นี้เป็นอย่างน้อย ครอบคลุมพื้นที่กรุงโซล เมืองอินชอน และจังหวัดคย็องกี ตลอดจนพื้นที่บางส่วนของจังหวัดคังว็อน และจังหวัดชุงช็องใต้

 อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าฝนตกหนักในช่วงฤดูร้อนของเกาหลีใต้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่ปริมาณและความถี่ของฝนซึ่งตกลงมามากเช่นนี้ ไม่สามารถหาเหตุผลประกอบอื่นใดได้มากกว่าเป็นการทวีความรุนแรงของภาวะการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศของโลก ที่ส่งผลให้ฤดูร้อนของเกาหลีใต้ในปีนี้มีช่วงเวลายาวนานกว่าหลายปีที่ผ่านมา

 ปริมาณฝนที่ตกในกรุงโซล เมื่อคืนวันจันทร์ (8 ส.ค.) ถือเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 80 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2485 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย และยังสูญหายอีกอย่างน้อย 6 ราย 
 

ภาพจากสำนักข่าวยอนฮับและสื่อออนไลน์หลายแห่ง เผยให้เห็นระดับน้ำท่วมสูง สถานีรถไฟใต้ดินหลายเส้นทางต้องหยุดให้บริการ เนื่องจากน้ำไหลทะลักเข้าท่วมสถานี

ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ของเกาหลีใต้ เรียกประชุมฉุกเฉินหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยกำชับให้มีการเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัย และเตรียมพร้อมรับมือฝนตกระลอกใหม่

กรมอุตุนิยมวิทยาเกาหลีใต้ ระบุว่า การที่ฝนตกต่อเนื่องถึงวันพุธเป็นอย่างน้อยนั้นเป็นผลพวงจากภาวะโลกร้อน โดยช่วง

กลางดึกของวันจันทร์ (8ส.ค.)พื้นที่ตอนใต้ของกรุงโซลรับน้ำฝนปริมาณกว่า 100 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง บางพื้นที่ฝนตกหนักถึง 141.5 มิลลิเมตร

ส่วนสำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้ รายงานว่า ปริมาณน้ำฝนที่วัดได้เมื่อเวลา 20.00 น. ในกรุงโซล อยู่ที่เฉลี่ยชั่วโมงละ 90.5 มิลลิเมตร โดยปริมาณน้ำฝนสูงสุดอยู่ที่เขตทงจัก (Dongjak) วัดได้ 137 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง นับเป็นปริมาณน้ำฝนสูงสุดในรอบหลายสิบปี

ในกังนัม ซึ่งเป็นย่านที่เต็มไปด้วยสีสันและเป็นที่รวมตัวของผู้คน อาคารบางแห่งเกิดไฟฟ้าดับและถูกน้ำท่วม รถยนต์ รถบัส และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหลายแห่งจมอยู่ใต้บาดาล ส่งผลให้ประชาชนติดค้างอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ส่วนห้างร้านบางแห่งถูกน้ำท่วมเช่นกัน

ส่วนสำนักงานใหญ่ด้านมาตรการรับมือภัยพิบัติและความปลอดภัยกลาง เปิดเผยว่า นับจนถึงเวลา 06.00 น.ของวันอังคาร (9 ส.ค.) มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 รายในกรุงโซล และอีก 2 รายเสียชีวิตในจังหวัดคย็องกี ที่อยู่ติดกัน โดยในบรรดาผู้เสียชีวิตมีอยู่ 4 รายเป็นผู้ติดอยู่ในอาคารต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วม อีกคนถูกไฟดูด อีกคนถูกพบอยู่ใต้เศษซากของป้ายรถเมล์ และอีกคนเสียชีวิตในเหตุดินถล่ม

สำนักงานใหญ่ด้านมาตรการรับมือภัยพิบัติและความปลอดภัยกลางของเกาหลีใต้ ตัดสินใจยกระดับการเตือนภัยวิกฤตสู่ขั้นสูงสุด พร้อมร้องขอองค์กรภาครัฐและเอกชน ปรับเปลี่ยนชั่วโมงการทำงาน