“เพโลซี” กับวิกฤติพกลูกชาย นักธุรกิจใหญ่ในจีน เยือนไต้หวัน
"พรรครีพับลิกัน" เคลื่อนไหวโจมตีลูกชายของเพโลซี ถึงความเหมาะสมที่ได้ร่วมทริปไต้หวันครั้งนี้ หลังหนังสือแท็บลอยด์รายวันชื่อดังของอังกฤษ เริ่มรายงานและขุดคุ้ยถึงพอล เพโลซี จูเนียร์ ในฐานะนักลงทุนบริษัท Borqs Technologies ธุรกิจโทรคมนาคมรายใหญ่ในจีน
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวยืนยันว่า พอล เพโลซี จูเนียร์ ลูกชายของเธอเป็นเพียง "ผู้คุ้มกัน" ในระหว่างการเยือนไต้หวัน และไม่ได้ใช้โอกาสนี้เพื่อธุรกิจใดๆ
“ฉันภูมิใจในคณะผู้แทนของเรา ซึ่งเกือบเป็นหนึ่งเดียวกัน” นางเพโลซีกล่าวขณะแนะนำผู้แทนรัฐสภาแต่ละคนที่ร่วมคณะในการเยือนไต้หวัน โดยเป็นทริปที่รัฐบาลปักกิ่งคัดค้านและเพนตากอนไม่แนะนำให้ไปเวลานี้ แต่สมาชิกคนหนึ่งที่เธอไม่ได้แนะนำตัวคือ “พอล เพโลซี จูเนียร์”
หากแต่ตอนนี้ สมาชิกพรรครีพับลิกันหลายคนที่เคยสนับสนุนการเยือนไต้หวันของเพโลซี ได้เปลี่ยนท่าทีมาประณามเธอที่ได้ “แอบ” นำลูกชายที่มีรายงานว่า “มีส่วนเชื่อมโยงกับการทำธุรกิจในจีน” ร่วมคณะไปด้วย ซึ่งถูกมองว่า ท้าทายอิทธิพลจีนที่กำลังเพิ่มมากขึ้น
รายงานของบริษัท Borqs ที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 แสดงให้เห็นว่าพอล จูเนียร์เข้าซื้อหุ้น 700,000 หุ้นของ Broqs Technologies ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “แผนผลประโยชน์พนักงาน” แต่ชื่อของเขาไม่ปรากฏท่ามกลางผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 รายของบริษัทในการยื่นคำร้องต่อ ก.ล.ต. เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2565
Borqs Technologies ก่อตั้งขึ้นในปี 2550 ซึ่งออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์และโซลูชัน “Internet of Things” และเรียกตัวเองว่า “ผู้นำระดับโลก” ในด้านเทคโนโลยี
ในเว็บไซต์ของบริษัทได้ตั้ง “ศูนย์วิจัยและพัฒนา” ในประเทศจีน อินเดีย ตลอดจนสหรัฐ และเกาหลีใต้
เมื่อเดือนสิงหาคม 2563 บริษัทได้เปิดตัวโซลูชันการติดตามอัจฉริยะบนมือถือที่ชื่อ “BeSmartTrack” ในไต้หวัน
พอล อายุ 53 ปี ผู้ซึ่งไม่อยู่ในรายชื่อสมาชิกของคณะผู้แทนสหรัฐเยือนไต้หวัน ซึ่งในเว็บไซต์ Borqs ได้แนะนำว่าเป็น “นายทุน ทนายความ และนายธนาคาร” ที่หวังจะ “เปลี่ยนแปลงการกำกับดูแลกิจการที่ดี” ด้วย “พื้นฐานจิตสำนึก” แบบมีส่วนร่วม
ในการเยือนภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกของเพโลซีนั้น พอลได้ถ่ายรูปร่วมกับผู้นำและเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมถึงแม่ของเขา ในระหว่างการเดินทางเพื่อปักหมุดที่สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน เกาหลีใต้และญี่ปุ่น
เว็บไซต์เดลี่เมลล์รายงานว่า พอลเป็นนักลงทุนอันดับสองในบริษัทจีน มูลค่า 22 ล้านดอลลาร์ และการได้เยือนไต้หวัน พอลก็ได้ถ่ายรูปร่วมกับนางไช่ ด้วย