ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงกว่า 200 จุดเช้านี้ หลังพาวเวลส่งสัญญาณขึ้นดบ.
ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 200 จุดเช้านี้ หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
เมื่อเวลา 06.26 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลง 241 จุด หรือ -0.75% แตะที่ 32,022 จุด
นายพาวเวลกล่าวในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล เมื่อวันศุกร์ (26 ส.ค.) โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐจำเป็นจะต้องมีการคุมเข้มนโยบายไประยะหนึ่งก่อนที่จะสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ ซึ่งจะส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอลง, ตลาดแรงงานอ่อนแอลง และส่งผลกระทบต่อภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ
"เราจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป จนกว่าจะมั่นใจว่าภารกิจของเราจะประสบความสำเร็จ โดยภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจอาจได้รับผลกระทบจากการที่เฟดยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ความล้มเหลวในการรักษาเสถียรภาพของราคาจะทำให้เกิดผลกระทบมากกว่า" นายพาวเวล กล่าว
นอกจากนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดยังคงจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และเฟดจะไม่ตัดทางเลือกในการ "ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่มากกว่าปกติ" ในเดือนก.ย.
ถ้อยแถลงดังกล่าวของนายพาวเวลส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลง 1,008.38 จุด หรือ -3.03% ปิดที่ 32,283.40 จุดในวันศุกร์ ขณะที่ดัชนี S&P500 ร่วงลง 141.46 จุด หรือ -3.37% ปิดที่ 4,057.66 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 497.56 จุด หรือ -3.94% ปิดที่ 12,141.71 จุด
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาบ้านเดือนมิ.ย.โดยเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.ค., ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค.จาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนส.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล, ดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.ค., ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค. และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ค.