เที่ยวบินเข้า-ออกจีนดิ่งต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เซ่นนโยบายโควิดเป็นศูนย์

เที่ยวบินเข้า-ออกจีนดิ่งต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เซ่นนโยบายโควิดเป็นศูนย์

ข้อมูลจาก VariFlight ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านข้อมูลเที่ยวบินระบุว่า การที่จีนเดินหน้าใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-Covid Policy) ทำให้จีนต้องแยกตัวจากประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกเกือบ 100% เมื่อพิจารณาจากเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกจากจีนที่ลดลงสู่ระดับต่ำ

VariFlight ระบุว่า ในขณะที่การเดินทางทางอากาศทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้นนั้น การเดินทางทางอากาศระหว่างประเทศของจีนกลับกระเตื้องขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยพบว่าขณะนี้มีการให้บริการเที่ยวบินเพียง 100 เที่ยวต่อวัน เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่ให้บริการเที่ยวบินมากกว่า 2,600 เที่ยวบินต่อวัน นอกจากนี้ จำนวนเที่ยวบินตามตารางบินยังลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากเมืองเซี่ยงไฮ้กำหนดมาตรการล็อกดาวน์ที่กินเวลานานหลายสัปดาห์ในเดือนเม.ย.

การที่ประชาชนประสบกับความยากลำบากในการเดินทางทั้งขาเข้าและขาออกจากจีนนั้น ทำให้บรรดานักธุรกิจหันไปใช้บริการเครื่องบินเช่าเหมาลำของภาคเอกชน โดยหอการค้าอเมริกันในเมืองเซี่ยงไฮ้จะเปิดให้บริการเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำจากนครลอสแอนเจลิสของสหรัฐไปยังเมืองหังโจวในเดือนนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกหอการค้าที่ยังคงติดค้างอยู่นอกประเทศจีน

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างข้อมูลของนิตยสารไฉซินว่า การที่รัฐบาลจีนจำเป็นต้องเร่งควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้ได้ก่อนที่การประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะเปิดฉากขึ้นในเดือนต.ค.นั้น ทำให้เมืองต่าง ๆ กว่า 30 เมืองของจีนต้องถูกล็อกดาวน์อย่างเต็มรูปแบบหรือล็อกดาวน์บางส่วน

เมืองเฉิงตูซึ่งมีประชากร 21 ล้านคน ประกาศขยายเวลาการล็อกดาวน์จนถึงวันพุธที่ 7 ก.ย. ขณะที่เมืองกุ้ยหยางซึ่งมีประชากร 6.1 ล้านคน สั่งล็อกดาวน์ชุมชนใน 6 เขตจากทั้งหมด 10 เขตเพื่อสกัดการระบาดของโควิด-19

นอกจากนี้ การที่จีนใช้มาตรการควบคุมพรมแดนอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ยังส่งผลให้จีนมีข้อพิพาทกับสหรัฐ โดยรัฐบาลสหรัฐประกาศระงับเที่ยวบินที่จะเดินทางจากสหรัฐไปยังประเทศจีนจำนวน 26 เที่ยวบินของสายการบินจีน 4 แห่ง โดยมีเป้าหมายเพื่อตอบโต้ต่อการที่รัฐบาลจีนตัดสินใจระงับเที่ยวบินจากสหรัฐหลังจากพบผู้โดยสารที่เดินทางจากสหรัฐติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากขึ้น

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมสหรัฐจะระงับเที่ยวบินจำนวน 26 เที่ยวที่ให้บริการโดยสายการบินเซี๊ยะหมิน แอร์ไลน์, แอร์ไชน่า, ไชน่า เซาเทิร์น แอร์ไลน์ และไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย.ไปจนถึงวันที่ 28 ก.ย.