สังเวย1ศพแผ่นดินไหวไต้หวัน บาดเจ็บ 79 ราย
แผ่นดินไหวรุนแรง 6.8 แมกนิจูดในไต้หวันช่วงบ่ายวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายและผู้บาดเจ็บ 79 ราย โดยแรงสั่นสะเทือนทำให้อาคารและโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมเสียหายหนัก
สื่อทางการไต้หวัน รายงานว่า แผ่นดินไหวขนาด 6.8 แมกนิจูดที่เกิดขึ้นในเขตไถตงเมื่อเวลา 14.44 น.วันนี้ (18 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น สร้างความเสียหายแก่อำเภออยู่ลี่ในเขตฮัวเหลียนมากที่สุด ทำให้มีแรงงานโรงงานซีเมนต์เสียชีวิต 1 รายหลังเศษซากปรักหักพังร่วงใส่
นอกจากนี้ ตึกอพาร์ตเมนต์สูง 3 ชั้น ซึ่งเจ้าของให้เช่าชั้นหนึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อ 7-11 พังถล่ม มีผู้บาดเจ็บ 4 คน หน่วยดับเพลิงใช้เวลา 3 ชม. จึงช่วยทั้ง 4 คนออกมาได้
นอกจากนี้ สะพานเกาเหลียวในอำเภอยู่ลี่พังถล่ม ทำให้ประชาชน 3 คนในรถกระบะ และมอเตอร์ไซค์ตกลงจากสะพานและได้รับบาดเจ็บ
ส่วนประชาชนอีกคนได้รับบาดเจ็บหลังตกจากเนินเขาหลิวซีตันในอำเภอยู่ลี่ และมีนักท่องเที่ยวราว 400 คนติดค้างบนภูเขาฉีเคอในอำเภออยู่ลี่ หลังจากดินถล่มทำให้เสาไฟฟ้าโค่นล้ม แต่ได้รับการทยอยอพยพลงมา
ขณะที่ในเมืองเถาหยวน มีบางคนบาดเจ็บเนื่องจากเพดานสนามแบดมินตันในร่มพังถล่มที่ชั้น 5 ของอาคารศูนย์กีฬาแห่งหนึ่ง และภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้
สำนักงานพยากรณ์อากาศกลางของไต้หวัน ระบุว่า แผ่นดินไหว 6.8 แมกนิจูดในบ่าย วันนี้เป็นแผ่นดินไหวหลัก ส่วนแผ่นดินไหว 6.4 แมกนิจูดเมื่อวันเสาร์และอีก 70 ครั้งก่อนหน้านี้เป็นแรงสั่นสะเทือนก่อนแผ่นดินไหว
แผ่นดินไหวครั้งนี้ สร้างความเสียหายบริเวณกว้างแก่โครงสร้างพื้นฐาน อาคาร และยานพาหนะในเขตฮัวเหลียนและเขตไถตง โดยเขตฮัวเหลียนมีสะพาน 3 แห่งพังย่อยยับหรือได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต และรถไฟโดยสารขบวนหนึ่งตกรางที่สถานีตงลี่ หลังจากหลังคาชานชาลาบางส่วนพังถล่ม โดยตู้โดยสาร 6 ตู้หลุดออกจากราง แต่ผู้โดยสาร 20 คนบนรถไฟไม่ได้รับบาดเจ็บ และถนนบางสายได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้ ครัวเรือน 7,073 หลังในอำเภอยู่ลี่ไม่มีไฟฟ้าใช้ และมีรายงานไฟดับในกรุงไทเป เขตนิวไทเป เมืองไถหนาน และเมืองเกาสง แต่ไม่มีรายงานความเสียหายต่อนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงอุทยานวิทยาศาสตร์ซินจู่ และอุทยานวิทยาศาสตร์เซาท์เทิร์น ไต้หวัน และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทุกแห่งยังดำเนินงานได้ตามปกติ ส่วนโรงเรียน 72 แห่งทั่วไต้หวันได้รับความเสียหาย และโรงเรียนในหลายพื้นที่ระงับการเรียนการสอน
ด้านประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการบรรเทาสถานการณ์ฉุกเฉินยกระดับการเฝ้าระวังสูงสุดเพื่อรับมือกับอาฟเตอร์ช็อคที่จะเกิดขึ้นตามมา และเตือนให้ประชาชนยังคงเฝ้าระวังอันตรายจากแรงสั่นสะเทือนที่จะตามมา