รัฐบาลทหารเมียนมาเตือน กดไลก์ฝ่ายตรงข้ามอาจติดคุก 10 ปี
รัฐบาลทหารเมียนมาเตือนประชาชนที่ให้การสนับสนุนฝ่ายต่อต้านรัฐบาล อาจต้องโทษจำคุก 10 ปี ที่ถึงการกดไลก์กดแชร์บนโซเชียลมีเดียด้วย
พลตรี จอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา ออกมาเตือนประชาชนที่ให้การสนับสนุนหรือแม้แต่ให้กำลังใจฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ก็ถือว่ามีความผิดและอาจต้องโทษจำคุกถึง 10 ปี
รัฐบาลทหารเมียนมา ถือว่า ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเป็นกลุ่มก่อการร้าย ที่บ่อนทำลายความสงบสุขและเสถียรภาพของบ้านเมือง หากมีประชาชนสนับสนุนกลุ่มเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคเงินแม้เพียงแค่น้อยนิด หรือการกดไลก์ กดแชร์ เนื้อหาบนโซเชียลมีเดียของกลุ่มต่อต้านรัฐบาล ก็จะถือว่าเข้าข่ายปลุกระดมซึ่งมีโทษจำคุก 3-10 ปี
รัฐบาลทหารเมียนมายังคงพยายามอย่างหนัก ที่จะกวาดล้างฝ่ายต่อต้านหรือฝ่ายเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายต่อต้านรัฐบาลได้รับการสนับสนุนเพิ่มขึ้นจากประชาชน โดยใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางหลักในการเผยแพร่ข่าวสารและเปิดรับบริจาคเงิน เพื่อใช้ในการสู้รบกับรัฐบาลทหารของเมียนมา
รัฐบาลทหารเมียนมาจึงพยายามทุกทาง ที่จะป้องกันไม่ให้ประชาชนสนับสนุนหรือเผยแพร่ข่าวสารของฝ่ายต่อต้าน ซึ่งก็ยิ่งทำให้รัฐบาลทหารเมียนมาถูกมองว่า ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน มากขึ้นไปอีก
ขณะที่ กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ (19ก.ย.)ระบุว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ย. มีเด็กอย่างน้อย 11 คนเสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศในพื้นที่ของพลเรือน ซึ่งรวมถึงโรงเรียนในเมืองตาบายิน เขตสะกาย และมีเด็กอีกอย่างน้อย 15 คนจากโรงเรียนเดียวกันสูญหาย จึงเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวเด็กอย่างปลอดภัยทันที พร้อมกับย้ำว่า โรงเรียนควรเป็นสถานที่ปลอดภัย และไม่ควรถูกโจมตี
เวบไซต์อิรวดี รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า มีเด็กเสียชีวิต 11 รายจากการโจมตีทางอากาศในเมืองตาบายิน และทหารนำศพส่วนใหญ่ไปเผาในพื้นที่ห่างออกไปเกือบ 11 กม.เพื่อพยายามทำลายหลักฐาน โดยรายงานระบุว่า เฮลิคอปเตอร์ MI-35 จำนวน 2 ลำยิงถล่มโรงเรียน ทำให้เด็ก 7 คนเสียชีวิตทันที และมีผู้บาดเจ็บอีก 17 คน ได้แก่ ครู 3 คนและนักเรียน 14 คน และมีเด็กอีก 2 คนเสียชีวิตเมื่อทหารราบบุกหมู่บ้าน
รัฐบาลทหาร ยืนยันว่า ส่งเฮลิคอปเตอร์ไปที่หมู่บ้านดังกล่าว หลังได้รับแจ้งเบาะแสว่า นักรบจากกองทัพอิสรภาพคะฉิ่น และกองกำลังต่อต้านรัฐประหารกำลังเคลื่อนย้ายอาวุธในพื้นที่ดังกล่าว พร้อมทั้งกล่าวหาว่า นักรบดังกล่าวใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์ และกองทัพสามารถยึดกับระเบิดและระเบิดได้จากหมู่บ้าน
ขณะที่ ไซฟุดดิน อับดุลลาห์ รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวขณะร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่นครนิวยอร์กของสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ว่า อาเซียนจะต้องตัดสินใจว่า ฉันทามติ 5 ข้อที่เป็นโรดแมปเพื่อสร้างสันติภาพในเมียนมาหลังการรัฐประหารเมื่อกว่าหนึ่งปีที่แล้วยังเหมาะสมอยู่หรือไม่ หรือ ควรจะเปลี่ยนแผนใหม่ที่ดีขึ้น โดยผู้นำชาติอาเซียนมีกำหนดเข้าร่วมการประชุมในเดือน พ.ย. เพื่อหารือถึงความคืบหน้าอย่างจำกัดของแผนสันติภาพดังกล่าว