ลุ้นอิตาลีได้นายกฯหญิง พันธมิตรฝ่ายขวามาแรง
ลุ้นอิตาลีได้นายกฯหญิง พันธมิตรฝ่ายขวามาแรง โดยรัฐบาลยุโรปและตลาดเงินจับตาผลการเลือกตั้งอย่างวิตกกังวล ผู้นำสหภาพยุโรปกังวลว่า อิตาลีจะเป็นพันธมิตรที่คาดการณ์ได้ยาก
ชาวอิตาลีออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่คาดว่าจะส่งผลให้ประเทศกลับไปได้รัฐบาลขวาจัดที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลก ครั้งที่ 2 และได้นายกฯ หญิงคนแรก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ชาวอิตาลีหลายล้านคนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันอาทิตย์ (25 ก.ย.) หลังจากนายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากี ลาออกเมื่อเดือนก.ค.เพราะไม่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาล
ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดเมื่อสองสัปดาห์ก่อนชี้ว่า พันธมิตรฝ่ายขวานำโดยพรรคพี่น้องแห่งอิตาลี (Brothers of Italy) ของจิออร์เจีย เมโลนี ชนะขาดตามที่คาดหมายกันไว้ ตัวเธอส่อแววได้เป็นนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำพรรคพันธมิตรที่มีพรรคสันนิบาตของแมตทิโอ ซาลวินี และพรรคฟอร์ซา อิตาเลียของซิลวิโอ แบร์ลุสโคนีรวมอยู่ด้วย ถือเป็นคะแนนนิยมที่เพิ่มขึ้นมากสำหรับเธอ นักการเมืองวัย 45 ปีจากกรุงโรม ที่ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุดปี 2561 พรรคของเธอได้คะแนนเสียงเพียง 4% เท่านั้น
ประชาชนใช้สิทธิได้ระหว่างเวลา 07.00 น.- 23.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 12.00 น. วันอาทิตย์ ถึง 4.00 น. วันจันทร์ (26 ก.ย.) ตามเวลาประเทศไทย หลังปิดหีบสามารถเผยแพร่เอ็กซิทโพลได้
อย่างไรก็ตาม การนับคะแนนค่อนข้างซับซ้อน มีทั้งระบบสัดส่วนผสม และใครได้คะแนนถึงเกณฑ์ก่อนเป็นผู้ชนะ หมายความว่าต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะทราบผลที่ชัดเจน แต่เนื่องจากโพลล่าสุดทำขึ้นเมื่อสองสัปดาห์ก่อนเลือกตั้ง เรื่องเซอร์ไพรส์ยังอาจเกิดขึ้นได้
มีการคาดการณ์กันว่า เสียงสนับสนุนขบวนการห้าดาว (ไฟว์สตาร์มูฟเมนท์) พรรคการเมืองฝ่ายซ้ายที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุดในปี 2561 เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่วันหลัง
คะแนนนิยมที่พุ่งขึ้นช่วงท้ายของไฟว์สตาร์อาจบั่นทอนโอกาสพันธมิตรฝ่ายขวา ไม่ให้ได้เสียงข้างมากในวุฒิสภา ยิ่งทำให้กระบวนการตั้งรัฐบาลยุ่งยากขึ้น
แต่แม้ผลเลือกตั้งชนะขาดก็ต้องรอถึงปลายเดือนต.ค.อิตาลี จึงจะได้รัฐบาลชุดใหม่ โดยสภาชุดใหม่จะประชุมกันในวันที่ 13 ต.ค.
ทั้งนี้ การเมืองอิตาลีมีประวัติการไร้เสถียรภาพ เห็นได้จากนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะเป็นผู้นำรัฐบาลชุดที่ 68 ของประเทศ นับตั้งแต่ พ.ศ.2489 และต้องเผชิญกับความท้าทายมากมายโดยเฉพาะราคาพลังงานเพิ่มสูง
รัฐบาลยุโรป และตลาดเงินจับตาผลการเลือกตั้งอย่างวิตกกังวล ผู้นำสหภาพยุโรปที่ต้องการรักษาเอกภาพไว้หลังรัสเซียรุกรานยูเครน กังวลว่า อิตาลีจะเป็นพันธมิตรที่คาดการณ์ได้ยากเสียยิ่งกว่าสมัยนายกฯ ดรากี อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางยุโรป
สำหรับตลาดกังวลเรื่อยมาถึงความสามารถของอิตาลีในการจัดการหนี้สินพอกพูนราว 150% ของผลผลิตมวลรวมประชาชาติ (จีดีพี)
ส่วนตัวเมโลนีนั้นไม่ได้ให้ความสำคัญกับต้นกำเนิดหลังยุคฟาสซิสต์ของพรรค แล้วฉายภาพว่าเป็นกลุ่มอนุรักษนิยมกระแสหลัก เธอให้คำมั่นสนับสนุนนโยบายตะวันตกว่าด้วยยูเครน และไม่เอาเศรษฐกิจประเทศไปเสี่ยงจนเกินควร แต่มีสัญญาณความแตกแยกระหว่างเมโลนีกับพันธมิตรในเรื่องนโยบายต่างประเทศ
ซัลวินีวิจารณ์ผลกระทบราคาพลังงานพุ่งสูงที่มีต่อประชาชนอิตาลี โดยกล่าวโทษว่าเป็นผลจากชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซีย ส่วนแบร์ลุสโคนี เรียกเสียงวิจารณ์อย่างหนักเมื่อเขาหาเสียงที่ดูเหมือนเป็นการปกป้องประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์