จับตาผู้นำจีนสมัย 3‘สี จิ้นผิง’ หลังข่าวลือสะพัดถูกยึดอำนาจ
จับตาผู้นำจีนสมัย 3‘สี จิ้นผิง’ หลังข่าวลือสะพัดถูกยึดอำนาจ ขณะที่นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า การก่อรัฐประหารในจีนเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ เพราะสี ควบคุมกองทัพโดยตรง ด้านสื่อจีนในต่างประเทศ ยังไม่มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับการก่อรัฐประหารในจีนแต่อย่างใด
การปล่อยข่าวลือแพร่สะพัดทั่วโลกโซเชียลว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนถูกกักตัวไว้ในบ้านพักเมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา เกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญคือเป็นช่วงที่ทางการจีนกำลังเตรียมจัดการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ในช่วงกลางเดือนต.ค. และการประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งนี้ มีความสำคัญมากเพราะจะชี้ชัดว่า ประธานาธิบดีสี ในวัย 69 ปี จะได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนติดต่อเป็นสมัยที่ 3 หรือไม่
ในส่วนของผู้เชี่ยวชาญด้านจีนในต่างประเทศส่วนใหญ่ บอกว่ายังไม่พบสัญญาณการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นในจีน ซึ่งข่าวลือนี้ น่าจะเกิดมาจากการที่สี ไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณะเป็นเวลาหลายวัน แต่เชื่อว่าสาเหตุเป็นเพราะสี น่าจะอยู่ระหว่างการกักตัวหลังจากที่เพิ่งเดินทางเยือนคาซัคสถานและอุซเบกิสถาน ซึ่งเป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรกของสี นับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาด
ขณะที่นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า การก่อรัฐประหารในจีนเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ เพราะสี เป็นผู้ควบคุมกองทัพโดยตรง ด้านสื่อจีน หรือสื่อใหญ่ในต่างประเทศ ยังไม่มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับการก่อรัฐประหารในจีนแต่อย่างใด
“มีข่าวลือสะพัดที่ต้องตรวจสอบว่า สี ถูกกักบริเวณในบ้านพักที่กรุงปักกิ่งจริงหรือไม่ ช่วงเวลาที่สีไปประชุมที่ซาร์มาคันด์เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีข่าวพรรคคอมมิวนิสต์ปลดสีออกจากตำแหน่ง ผู้บัญชาการกองทัพ จากนั้นจึงตามมาด้วยการกักบริเวณ นี่คือข่าวลือ” สุพรามาเนียน ซวามี อดีตผู้นำพรรคบีเจพี ของอินเดียส่งข้อความทางทวิตเตอร์
ขณะที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่เป็นชาวจีน โพสต์ข้อความลักษณะเดียวกันว่า สี ถูกกักบริเวณในบ้านพัก และบ้างถึงกับคาดการณ์ว่า นายพล หลี่ เฉียวหมิง เป็นผู้เข้ามาดำรงตำแหน่ง ประธานาธิบดีแทน
อินเดียทูเดย์ รายงานว่า ข่าวลือเริ่มมาจากอดีตรัฐมนตรีผู้ทรงอิทธิพล 2 คน ถูกตัดสิน จำคุกตลอดชีวิต เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีก 4 คน ซึ่งทั้งหมดอยู่ในกลุ่มที่แตกแยกทางการเมืองออกมาจากฝ่ายของสี ข่าวลือเรื่องนี้เริ่มต้นสะพัดจากกลุ่มที่รวมตัวกันต่อต้านสี
กระแสข่าวลือว่าสีถูกยึดอำนาจเกิดขึ้นท่ามกลางข่าวว่าจีนยกเลิกเที่ยวบินนับหมื่นเที่ยวโดยไม่มีที่มาที่ไปที่ชัดเจน โดยเว็บไซต์ China.com เว็บไซต์สื่อจีน รายงานข้อมูลจาก ไฟลต์มาสเตอร์ ระบุว่า ทั่วประเทศจีนยกเลิกเที่ยวบิน 9,583 เที่ยว ในวันที่ 21 ก.ย. จนถึง เวลา 22.35 น. ตามเวลาท้องถิ่น คิดเป็นสัดส่วน 59.66% ของกำหนดการเดินทางทั้งหมดในวันนั้น
ไฟลต์มาสเตอร์ ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับเที่ยวบิน ตั๋วเครื่องบิน บริการการเดินทาง ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักจัดการจราจรทางอากาศ ระบุว่า ท่าอากาศยานที่เป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศที่พลุกพล่านบางแห่งในจีนมีอัตราการยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 50% เช่น
ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่ง ยกเลิก 622 เที่ยวบิน อัตราการยกเลิกอยู่ที่ 60% ของเที่ยวบินทั้งหมดของท่าอากาศยาน
ท่าอากาศยานนานาชาติเซี่ยงไฮ้ผู่ตง ยกเลิก 652 เที่ยวบิน อัตราการยกเลิกอยู่ที่ 54% ท่าอากาศยานเซินเจิ้นเป่าอัน ยกเลิก 542 เที่ยวบิน อัตราการยกเลิกอยู่ที่ 51%
ขณะที่เน็ตอีสท์ เว็บไซต์ข่าวในจีน รายงานเมื่อวันศุกร์ที่ 22 ก.ย. ว่า การยกเลิกเที่ยวบินเกิดขึ้นเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในหลายมณฑลในจีน
ประธานาธิบดีสี เกิดเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ปี 2496 ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน, ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน และประธานคณะกรรมาธิการทางทหารส่วนกลาง โดยสี เริ่มดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ปี 2556 สืบต่อจากอดีตประธานาธิบดีหู จิ่นเทา
ในปี 2561 ที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน มีมติเห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญสำคัญครั้งประวัติศาสตร์ ยกเลิกข้อจำกัดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดีจีนออกไปโดยไม่มีกำหนด จากเดิมที่กำหนดให้ดำรงตำแหน่งไม่เกิน 2 วาระ หรือ 10 ปี ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญสำคัญครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดทางไปสู่การต่ออายุวาระดำรงตำแหน่งของสี จิ้นผิง ที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 หรือ 10 ปี และจะหมดวาระดำรงตำแหน่งในปี 2566
การแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ ถือเป็นการเปลี่ยนกฎหมายตามรัฐธรรมนูญของเติ้ง เสี่ยวผิง ที่กำหนดให้ผู้นำทางการเมืองดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 สมัย หรือ 10 ปีเท่านั้น
วานนี้ (26ก.ย.)พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เสร็จสิ้นการคัดเลือกคณะผู้แทนที่จะเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งสำคัญที่มีกำหนดเปิดฉากขึ้นวันที่ 16 ต.ค.นี้ ซึ่งคาดการณ์ว่าประธานาธิบดีสี จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนต่อเป็นสมัยที่ 3 หลังจากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญจำกัดวาระดำรงตำแหน่ง 2 สมัยไปเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า การประชุมสมัชชาฯที่มีกำหนดจัดขึ้นทุก 5 ปีนี้จะมีการปรับเปลี่ยนคณะผู้นำกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (โปลิตบูโร) ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด 25 คนอีกด้วย
“หน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศได้ทำการจัดประชุมพรรค หรือการประชุมผู้แทนพรรค และได้คัดเลือกผู้แทนทั้งหมด 2,296 คนเพื่อเข้าร่วมการประชุมสมัชชาฯครั้งที่ 20 เสร็จเรียบร้อยแล้ว” สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนรายงาน
การประชุมสมัชชาฯในกรุงปกกิ่งช่วงกลางเดือนหน้านี้มีขึ้นในช่วงที่ปธน.สีกำลังเผชิญอุปสรรคทางการเมืองครั้งสำคัญ ซึ่งรวมถึงปัญหาเศรษฐกิจซบเซา ความสัมพันธ์กับสหรัฐที่เสื่อมถอยลง และการบังคับใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์อันเข้มงวด