‘สี จิ้นผิง’ ลั่นต้องรวมประเทศ พร้อมปกป้องนโยบายโควิดเป็นศูนย์
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า เมื่อการประชุมใหญ่ในประวัติศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ณ กรุงปักกิ่ง เริ่มต้นขึ้น ‘สี จิ้นผิง’ ประธานาธิบดีจีน ลั่นไม่ถอนกำลัง และการรวมประเทศกับไต้หวันจะเกิดขึ้นจริง พร้อมปกป้องนโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” ที่เป็นประเด็นขัดแย้งในสังคม
นายสีกล่าวว่า นโยบายโควิดเป็นศูนย์ ถือเป็นสงครามของประชาชนทั้งหมดที่ต้องระงับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้ได้ ซึ่งนโยบายดังกล่าว ช่วยชีวิตผู้คนมากมาย แต่ขณะเดียวกันสามารถส่งผลร้ายต่อประชาชนและเศรษฐกิจจีนด้วย
ทั้งนี้ ปักกิ่งอยู่ภายใต้มาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดก่อนมีการประชุมใหญ่ และจุดชนวนความไม่พอใจ จนเกิดการประท้วงของประชาชนที่รุนแรงและหายาก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (13 ต.ค.) เพื่อต่อต้านสี จิ้นผิง และนโยบายโควิดเป็นศูนย์
นอกจากนี้ นายสียังกล่าวถึงปัญหากับไต้หวัน ที่จีนอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งในอาณาเขตของตน โดยนายสีกล่าวอย่างช้า ๆ ด้วยความตั้งใจว่า “รัฐบาลปักกิ่ง ไม่เคยสัญญาว่าจะถอนการใช้กำลัง และการรวมประเทศของเราจะต้องเป็นจริงให้ได้” คำปราศรัยดังกล่าว สามารถเรียกเสียงปรบมือจากคณะผู้แทนได้อย่างต่อเนื่อง
และนายสีได้อ้างถึงฮ่องกงว่า ตนและรัฐบาลปักกิ่งได้เข้าปกครองด้วยการเปลี่ยนสถานการณ์จากความวุ่นวายสู่การปกครอง เมื่อจีนประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติกับฮ่องกง หลังเกิดการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในปี 2562
นอกจากนี้ สีได้กล่าวถึง ความแตกแยกในสถาบันการเมืองของจีนว่า ในการปกครองของตนนั้น ได้ขจัดภัยอันตรายร้ายแรงที่ซ่อนอยู่ในพรรคได้แล้ว
ซึ่งตั้งแต่นายสีขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุด ได้ดูแลการปราบปรามการทุจริตเป็นวงกว้าง ไปจนถึงผู้นำระดับสูงสุดของพรรค แต่นักวิเคราะห์มองว่า การปราบปรามดังกล่าวเป็นการกวาดล้างทางการเมือง
ทั้งนี้ คำกล่าวปราศรัยของนายสี มีอิทธิพลเหนือการประชุมในวันแรก ซึ่งการเลือกใช้คำพูดได้รับการฝึกฝนมาหลายเดือน ส่วนด้านนักวิเคราะห์จะคอยติดตามสัญญาณต่าง ๆ ของการเปลี่ยนแปลงนโยบายต่อไป