'ไออีเอ' เตือนประเทศกำลังพัฒนาอ่อนไหวต่อราคาพลังงานมากที่สุด

บิรอล เผยว่า สหรัฐไม่ใช่ประเทศที่อ่อนไหวต่อราคาพลังงานมากที่สุด แต่ประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ประเทศนำเข้าน้ำมัน ได้แก่ ประเทศในแถบแอฟริกา เอเชีย และละตินอเมริกา เนื่องจากการนำเข้าพลังงานมีราคาสูง และประสบปัญหาค่าเงินอ่อนค่า ซึ่งประเทศที่นำเข้าน้ำมันในแถบตะวันออกกลางและอเมริกาเหนือนั้น รวมถึงจิบูตี ซูดาน โมร็อกโก และปากีสถาน

ส่วนยุโรปเกิดปัญหาขาดแคลนก๊าซ เนื่องจากรัสเซียงดส่งก๊าซทำให้ประเทศยุโรปหลายแห่งเกิดวิกฤติพลังงานไปจนถึงฤดูหนาว โดยหน่วยงานบริหารโครงข่ายไฟฟ้าแห่งอังกฤษเตือนว่า อาจมีความเป็นไปได้ที่พลังงานจะถูกตัดขาด

ส่วนโอเปคพลัส มีกำหนดลดกำลังการผลิตเชื้อเพลิงตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นให้ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว แม้สหรัฐเรียกร้องให้ผลิตเพิ่มเพื่อบรรเทาปัญหาด้านเศรษฐกิจของทั่วโลก ซึ่งราคาพลังงานพุ่งสูง อาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวรุนแรง จนเข้าสู่ภาวะถดถอย และเตือนว่า ปัญหาด้านพลังงานอาจนำไปสู่สภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นผลดีต่อทั้งผู้ซื้อ และผู้จำหน่าย

บิรอล กล่าวเสริมว่า ตลาดน้ำมันอาจมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง ตราบใดที่ยังเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครนอยู่

นอกจากนี้ บิรอล ยังคาดการณ์ว่า ราคาก๊าซแอลเอ็นจีของโลก อาจเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเศรษฐกิจจีนกำลังฟื้นตัว และยุโรปต้องการนำเข้าพลังงานมากขึ้น ซึ่งก๊าซแอลเอ็นจีในเอเชียมีราคาแพงขึ้น 5 เท่าโดยเฉลี่ย เมื่อเทียบกับ 5 ปีก่อน และในปีหน้า อาจเกิดความท้าทายมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น อาจทำให้ตลาดโลกมีแรงผลักดันกระตุ้นรัฐบาลให้ลงทุนในพลังงานสะอาดแทนที่พลังงานจากฟอสซิลมากขึ้น

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์