แอ๊ปเปิ้ลชี้ ‘เงินดอลลาร์แข็งค่า’ ดันราคาไอโฟน 14 แพง!

แอ๊ปเปิ้ลชี้ ‘เงินดอลลาร์แข็งค่า’ ดันราคาไอโฟน 14 แพง!

แอ๊ปเปิ้ลเปิดตัวไอโฟน 14 ซีรีส์ใหม่ พร้อมด้วยฟังก์ชันใช้งานที่หลากหลาย และมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ มากขึ้น แต่สาวกไอโฟนบางประเทศอาจต้องจ่ายเงินซื้อโทรศัพท์ในราคาที่แพงขึ้น

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีเปิดเผยว่า ในขณะที่นักวิเคราะห์บางคนคาดว่า แอ๊ปเปิ้ลอาจขึ้นราคาไอโฟนรุ่นล่าสุดทั่วโลก เนื่องจากปัญหาซัพพลายเชนและเงินเฟ้อ แต่ผู้มีกำลังซื้อในจีนและสหรัฐกลับไม่เห็นว่าราคาไอโฟน 14 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไอโฟน 13

ยกตัวอย่างเช่น ราคาไอโฟน 14 ที่เปิดตัวในสหรัฐอยู่ที่ 799 ดอลลาร์ เท่ากับราคาไอโฟน 13 ที่เปิดตัวเมื่อปีก่อน แต่ราคาเปิดตัวไอโฟน 14 ในอังกฤษอยู่ที่ 849 ปอนด์ หรือประมาณ 975 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคาเปิดตัวไอโฟน 13 ของอังกฤษ ประมาณ 80 ดอลลาร์

ทั้งนี้ สาเหตุที่ราคาไอโฟนในตลาดมือถือของประเทศอื่น ๆ แพงขึ้นนั้น เกี่ยวข้องกับ ‘ค่าเงินผันผวน

‘ลูกา มาเอสตรี’ ประธานบริหารฝ่ายการเงินแอ๊ปเปิ้ลกล่าวในการเปิดเผยรายได้ไตรมาสสี่เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า สกุลเงินทั่วโลกอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ ทำให้เกิดความยากลำบากในหลายด้าน โดยเฉพาะการกำหนดราคาในตลาดเกิดใหม่ทำได้ยาก และเมื่อแปลงสกุลเงินอื่นเป็นดอลลาร์พบว่า รายได้บริษัทได้รับผลกระทบ ดังนั้น อัตราแลกเปลี่ยนต่างประเทศ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อบริษัททั้งรายได้และอัตรากำไรขั้นต้น

ขณะที่แอ๊ปเปิ้ลรายงานว่า รายได้เพิ่มขึ้น 8% สู่ระดับ 90,150 ล้านดอลลาร์ แต่ทิม คุก ซีอีโอแอ๊ปเปิ้ลกล่าวว่า รายได้อาจโตถึง ‘สองหลัก’ หากเงินดอลลาร์ไม่แข็งค่า

 

ในปี 2562 เมื่อเงินดอลลาร์แข็งค่ากว่าเงินสกุลอื่น แอ๊ปเปิ้ลได้ปรับราคาในบางตลาด ให้มีราคาใกล้เคียงกับสกุลเงินนั้น ๆ ในปีก่อน เหมือนเป็นการแบกรับภาระค่าใช้จ่ายแทนผู้บริโภค แต่อีกเหตุผลคือยอดขายร่วงเนื่องจากราคาโทรศัพท์แพง จึงปรับราคาลง

ส่วนในปี 2565 นี้ แอ๊ปเปิ้ลกล่าวว่าความต้องการในตลาดยังไม่ลดลง ซึ่งมาเอสตรีย้ำว่า บริษัทมีรายได้เติบโตเป็นสองเท่าในประเทศอินเดีย, อินโดนิเซีย, เม็กซิโก, เวียดนาม, และประเทศอื่น ๆ ที่สกุลเงินอ่อนค่าเช่นกัน

นอกจากนี้ เงินดอลลาร์แข็งค่ามากขึ้นเมื่อเทียบกับเงินหยวนในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีสัญญาณบ่งชี้ว่าความต้องการซื้อไอโฟนรุ่นใหม่ของจีนอาจซบเซาลง แม้ยอดขายแอ๊ปเปิลไตรมาสเดือน ก.ย. ในจีน จะเพิ่มขึ้นทำลายสถิติใหม่ แต่ยอดขายไอโฟน14 ทั้ง 4 รุ่น ในช่วง 38 วันแรก ลดลงถึง 28% เมื่อเทียบกับยอดขายไอโฟน 13 ในช่วงเวลาเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม แอ๊ปเปิ้ลไม่ใช่บริษัทเดียวที่ยอมรับว่าความผันผวนของค่าเงินมีผลกระทบต่อบริษัทและการตัดสินใจด้านราคา แต่แมคโดนัลด์และโคคาโคลาต่างพยายามชดเชยความผันผวนของค่าเงิน ด้วยการขึ้นราคาสินค้าเช่นกัน