ส่องทริปแรก "เจ้าชาย-เจ้าหญิงแห่งเวลส์" ท่ามกลางปมเหยียดผิว-สารคดี "แฮร์รี-เมแกน"
เจ้าชายวิลเลียมและชายาเคท อยู่ระหว่างการเสด็จเยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบ 8 ปี และครั้งแรกในฐานะ "เจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์" แต่ดูเหมือนว่าทริปประวัติศาสตร์นี้จะถูกขโมยซีนด้วยประเด็นเหยียดผิวร้อนๆ ในอังกฤษ แถมเน็ตฟลิกซ์ยังออกทีเซอร์ซีรีส์สารคดีเจ้าชาย "แฮร์รี-เมแกน" ผู้กล่าวหาว่า ราชวงศ์อังกฤษเหยียดผิวเธอ
ประเด็นเหยียดผิวกลับมาอยู่ในหน้าสื่ออังกฤษอีกครั้ง ถึงขนาดที่ ริชี ซูแน็ก นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ต้องให้สัมภาษณ์สกายนิวส์ว่า อังกฤษก้าวหน้าไปมากในเรื่องนี้แต่งานยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และเราต้องเผชิญหน้ากับการเหยียดผิวเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่า นี่ไม่ใช่เรื่องที่นายกรัฐมนตรีเชื้อสายอินเดียพูดขึ้นมาลอยๆ แต่มีชนวนเหตุอันสืบเนื่องมาจากเรื่องในรั้วในวัง
การเหยียดผิวใน ราชวงศ์อังกฤษ ถูก เมแกน มาร์เคิล นักแสดงชาวอเมริกัน ชายาเจ้าชายแฮร์รี เปิดประเด็นไว้ตอนให้สัมภาษณ์กับ โอปราห์ วินฟรีย์ เมื่อเดือน มี.ค.2564 ถึงคำบอกเล่าที่เธอได้รับจาก เจ้าชายแฮร์รี ว่ามีสมาชิกราชวงศ์พระองค์หนึ่งแสดงความกังวลเรื่องสีผิวของอาร์ชี โอรสของทั้งคู่ คำกล่าวหาของเมแกนถือว่าแรงสำหรับราชวงศ์อังกฤษ ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าชายวิลเลียม พระเชษฐาของเจ้าชายแฮร์รีทรงออกมาแก้ข่าวว่า ราชวงศ์อังกฤษไม่ใช่ครอบครัวที่จะเหยียดผิวเลย
ล่าสุดเรื่องนี้ถูกพูดถึงในสื่ออังกฤษอีกครั้งเมื่อ เอ็นโกซี ฟูลานี ผู้เกิดในอังกฤษและทำงานให้กับกลุ่มสนับสนุนผู้ถูกล่วงละเมิดในครอบครัวแฉผ่านทวิตเตอร์ว่า เธอได้รับเชิญไปร่วมงานการกุศลของ พระราชินีคามิลลา ใน สมเด็จพระเจ้าชาร์ลสที่ 3 เมื่อวันอังคาร (29 พ.ย.) แต่กลับถูกข้าราชสำนักรายหนึ่งถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า “เธอมาจากส่วนไหนของแอฟริกา” สื่ออังกฤษขุดต่อจนระบุตัวได้ว่า ข้าราชสำนักรายนี้คือ เลดี้ซูซาน ฮัสซีย์ วัย 83 ปี และที่สำคัญเธอคือแม่ทูนหัวหนึ่งในหกคนของเจ้าชายวิลเลียม รัชทายาทบัลลังก์อังกฤษ!
เรื่องใหญ่ขนาดนี้สื่อจึงต้องถามนายกฯ อังกฤษผู้มีเชื้อสายอินเดีย เจ้าตัวเผยกับสกายนิวส์เมื่อวันพฤหัสบดี (1 ธ.ค.) ถึงประสบการณ์ถูกเหยียดผิวโดยไม่ได้พาดพิงเรื่องราวในราชสำนักแต่อย่างใด
“ผมไม่คิดว่าประสบการณ์เหยียดผิวที่ผมเคยเจอสมัยเป็นเด็กและวัยรุ่นจะเกิดขึ้นในทุกวันนี้ เพราะประเทศเราแก้ปัญหาเหยียดผิวได้ก้าวหน้าอย่างเหลือเชื่อ แต่งานยังไม่เสร็จและเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อเราเจอการเหยียดผิวก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน เป็นสิ่งถูกต้องที่เราจะเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและเดินหน้าเพื่ออนาคตที่ดีกว่า”
คำตอบจากนายกฯ ชี้ให้เห็นว่า เรื่องนี้ซีเรียส ด้านโฆษกสำนักพระราชวังเผยว่า ข้าราชสำนักรายดังกล่าวลาออกจากตำแหน่งไปแล้ว หลังแสดงความเห็นเรื่องเชื้อชาติและสีผิว “อย่างไม่อาจยอมรับได้และน่าเสียใจอย่างสุดซึ้ง”
ขโมยซีนทริปแรก “เจ้าชาย-เจ้าหญิงแห่งเวลส์”
แม้ต้นตอเรื่องฉาวจะลาออกไปแล้ว แต่ข่าวของแม่ทูนหัวอาจส่งผลสะเทือนต่อเจ้าชายวิลเลียมและชายาเคทที่อยู่ระหว่างเสด็จเยือนสหรัฐครั้งแรกในรอบ 8 ปี และนี่เป็นการเสด็จครั้งแรกในฐานะ “เจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: "เน็ตฟลิกซ์" ปล่อยตัวอย่างสารคดี "ปรินซ์แฮร์รี-เมแกน"
เจ้าชายวิลเลียมและชายาเคท เริ่มต้นเดินทางตั้งแต่วันพุธ (30 พ.ย.) ทริปสามวันเพื่อโปรโมทเรื่องการต่อสู้โลกร้อนเริ่มต้นที่เมืองบอสตัน โฆษกประจำพระองค์ใช้โอกาสนี้ชี้แจงกับนักข่าวที่บอสตัน
“สังคมเราไม่มีที่ให้การเหยียดผิว ความเห็นเหล่านี้ไม่อาจยอมรับได้ ถูกต้องแล้วที่บุคคลดังกล่าวต้องลาออกไปโดยมีผลทันที” โฆษกกล่าวและว่า เจ้าชายวิลเลียมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ แต่พระองค์ทรงเชื่อว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องแล้ว
เน็ตฟลิกซ์ปล่อยทีเซอร์สารคดี “แฮร์รี-เมแกน”
ช่างเป็นเวลาที่สอดคล้องต้องกันพอดี ในวันพฤหัสบดี (1 ธ.ค.) ตามเวลาสหรัฐ ยักษ์ใหญ่สตรีมมิงอย่างเน็ตฟลิกซ์ก็ปล่อยทีเซอร์ซีรีส์สารคดีที่หลายคนรอคอย เรื่องราวชีวิตของเจ้าชายแฮร์รีและชายาเมแกน ที่โอมิด สโคบี เพื่อนสนิทและช่างภาพส่วนตัวเผยว่า สารคดี 6 ตอนมีกำหนดออนแอร์ในวันที่ 8 ธ.ค. "จะเผยแพร่อีกด้านหนึ่งของเรื่องราวความรักและความท้าทายที่ทั้งคู่ได้เผชิญ"
เจ้าชายแฮร์รีและเมแกน ดาราอเมริกันลูกผสม เคยอ้างว่า การเหยียดผิวในราชสำนักเป็นเหตุผลหนึ่งให้ทั้งคู่ต้องอำลาชีวิตราชวงศ์เมื่อเกือบสามปีก่อน
สำหรับการเยือนบอสตันของเจ้าชายวิลเลียมครั้งนี้ คนวงในราชสำนักเรียกว่า เป็นช่วงเวลาซูเปอร์โบวล์ของพระองค์ แต่สโคบี เพื่อนสนิทของพระอนุชากลับทวีตข้อความท้าทาย
“ถ้าพรุ่งนี้เป็นซูเปอร์โบวล์ของเจ้าชายวิลเลียมล่ะก็ นี่คงเป็นช่วงเวลาพักครึ่งของพระองค์” แล้วเขาก็แชร์คลิปทีเซอร์จากเน็ตฟลิกซ์
ทีเซอร์ความยาวหนึ่งนาทีที่เผยแพร่ผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตหลากหลาย แสดงภาพถ่ายรักใคร่ใกล้ชิดของเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน สลิปกับคลิปเจ้าชายแฮร์รีพูด “ไม่มีใครเห็นว่าอะไรเกิดขึ้นเบื้องหลัง” พร้อมกับภาพเมแกนปาดน้ำตา มีช็อตหนึ่งที่เผยภาพเจ้าหญิงเคทพักตร์ดุ ตาคมกริบ ดูเผินๆ เหมือนเป็นนางร้าย!
แค่หนังตัวอย่างยังแซ่บขนาดนี้ ออนแอร์จริงจะขนาดไหนเรียกได้ว่าราชวงศ์อังฤษต้องเตรียมตัวรับ “เรื่องแฉ” จากสารคดีเรื่องนี้เอาไว้ได้เลย แค่นี้ยังไม่พอ เดือน ม.ค.เจ้าชายแฮร์รีจะออกหนังสืออัตชีวประวัติชื่อ “ตัวสำรอง” คาดได้ว่า คงมีเรื่องให้ต้องเปิดโปงกันอีกมาก