จีนผ่อนคลายมาตรการคุมโควิดในเมืองใหญ่หลายแห่งขณะยอดติดเชื้อลดต่อเนื่อง

จีนผ่อนคลายมาตรการคุมโควิดในเมืองใหญ่หลายแห่งขณะยอดติดเชื้อลดต่อเนื่อง

จีนรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ทางการจีนกำลังผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ด้วยการยกเลิกข้อกำหนดที่ประชาชนต้องแสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นลบก่อนเข้าใช้บริการในสถานที่สาธารณะ ซึ่งรวมถึงสวนสาธารณะ

คณะกรรมการด้านสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) เปิดเผยในวันนี้ (6 ธ.ค.) ว่า จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 27,164 รายในวันจันทร์ (5 ธ.ค.) ลดลงจากระดับ 29,171 รายในวันอาทิตย์ (4 ธ.ค.) โดยจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงติดต่อกัน 8 วันทำการ นับตั้งแต่พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 38,808 ราย ในวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในช่วงเช้าวันนี้ กรุงปักกิ่งซึ่งเป็นเมืองหลวงของจีนระบุว่า กรุงปักกิ่งจะยกเลิกข้อกำหนดที่ประชาชนต้องแสดงผลตรวจโควิด-19 เป็นลบก่อนเข้าใช้บริการในสถานที่สาธารณะ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามเมืองต่าง ๆ ตั้งแต่เซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของจีน ไปจนถึงเมืองเซินเจิ้นซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีของจีน ที่ประกาศยกเลิกข้อกำหนดดังกล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ แม้ว่าสถานที่บางแห่งยังจำเป็นต้องบังคับใช้ข้อกำหนดดังกล่าว เช่น ร้านอาหาร และสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูงเช่นบ้านพักคนชรา แต่ความเคลื่อนไหวในภาพรวมนั้น ถือเป็นการผ่อนคลายมาตรการที่เข้มงวด จากเดิมที่กำหนดว่าประชาชนต้องแสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี PCR ในจุดตรวจซึ่งตั้งอยู่ในเมืองสำคัญหลายแห่ง และจากเดิมที่เด็ก ๆ ได้ถูกกำหนดให้ต้องแสดงผลตรวจเชื้อเป็นลบก่อนจะเข้าไปในสวนสาธารณะในกรุงปักกิ่ง

ขณะเดียวกัน  นครเซี่ยงไฮ้ประกาศยกเลิกข้อกำหนดการแสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี PCR ก่อนเข้าใช้บริการในสถานที่สาธารณะ ยกเว้นสถานที่บางแห่ง เช่น ร้านอาหาร บาร์ และสถานพยาบาล โดยเทศบาลเมืองเซี่ยงไฮ้ระบุว่า มาตรการต่าง ๆ จะยังคงมีการปรับให้สอดคล้องกับนโยบายหลักของประเทศและสถานการณ์ในท้องถิ่น

การประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ของเมืองต่าง ๆ เหล่านี้มีขึ้น หลังจากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลจีนได้ออกมาส่งสัญญาณเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านจากการใช้นโยบายที่เข้มงวดไปเป็นการผ่อนคลายนโยบาย หลังจากพบว่านโยบายโควิดเป็นศูนย์ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและก่อให้เกิดการประท้วงของประชาชนจำนวนมากเมื่อไม่นานมานี้

นางซุน ชุนหลาน รองนายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า จีนกำลังเผชิญกับ "สถานการณ์ใหม่" และความท้าทายในการป้องกันและควบคุมโรค หลังจากประชาชนจำนวนมากพร้อมใจกันออกมาชุมนุมประท้วงต่อต้านนโยบายโควิดเป็นศูนย์ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

นอกจากนี้ นางซุนยังกล่าวว่า ขณะนี้ความสามารถในการก่อโรค (pathogenicity) ของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเริ่มลดน้อยลง เนื่องจากประชาชนฉีดวัคซีนกันมากขึ้น และประสบการณ์ในการควบคุมไวรัสชนิดดังกล่าวก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

ด้านนายถิง ลู่ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนของบริษัทโนมูระกล่าวว่า "เราเชื่อว่าถ้อยแถลงของนางซุน และการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ในกรุงปักกิ่งและเมืองกว่างโจว เป็นการส่งสัญญาณอย่างมีนัยสำคัญว่า นโยบายโควิดเป็นศูนย์อาจจะสิ้นสุดลงภายในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า"