ปรับให้เท่าเทียม! “สายการบิน” ต่างชาติให้พนักงานแต่งกายตามเพศสภาพได้
“สายการบิน” ระดับนานาชาติหลายแห่งเริ่มเปิดกว้างด้านความหลากหลายทางเพศมากขึ้น โดยเปิดโอกาสให้พนักงานต้อนรับสามารถแต่งกายตามเพศสภาพได้แล้ว
อาชีพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน หรือ แอร์โฮสเตสและสจ๊วต ถือเป็นอาชีพที่มีกฎระเบียบเรื่องการแต่งกายที่เคร่งครัด เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้องค์กร โดยเฉพาะ สายการบินประจำชาติหรือสายการบินนานาชาติ ยิ่งต้องเคร่งครัดมากไปอีก เพราะถือว่าเป็นหน้าตาในระดับประเทศ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่พนักงานที่มีความหลากหลายทางเพศจะสามารถเปิดเผยตัวตนออกมาได้อย่างอิสระ หรือแม้แต่การโชว์รอยสักนอกร่มผ้า
แต่ปัจจุบันเริ่มมีหลายๆ สายการบิน ที่เปิดกว้างทั้งในเรื่องการแต่งกายตามเพศสภาพ การสักนอกร่มผ้า การเจาะจมูก หรือการแต่งหน้าของเพศที่สาม เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานมีสิทธิเสรีภาพในการแต่งกายมากขึ้น
ในอดีตเรามักเห็นแอร์โฮสเตสสวมกระโปรงใส่รองเท้าส้นสูง และสจ๊วตสวมกางเกง แต่หลังจากนี้เราอาจจะเริ่มเห็นสจ๊วตที่แต่งหน้า หรือแอร์โฮสเตสที่มีรอยสักนอกร่มผ้ามากขึ้น เมื่อสายการบินเริ่มทยอยผ่อนคลายกฎระเบียบด้านการแต่งกาย
- เมื่อ “สายการบิน” แห่งชาติอังกฤษ เปิดทางให้ความหลากหลายทางเพศ
British Airways สายการบินแห่งชาติอังกฤษ และเป็นหนึ่งในสายการบินเก่าแก่ของยุโรปที่ขึ้นชื่อว่ามีกฎระเบียบในการรับสมัครลูกเรือและการแต่งกายที่เคร่งครัด แต่ล่าสุดเมื่อ 14 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา ทางสายการบินได้ประกาศให้ลูกเรือและนักบินมีอิสระในการแต่งกายมากขึ้น สำหรับพนักงานชาย, สจ๊วต และนักบินชาย สามารถแต่งหน้า ติดขนตาปลอม ใส่ต่างหู ไว้ผมยาว และทาเล็บได้ แต่ต้องทำผมให้เรียบร้อยระหว่างปฏิบัติหน้าที่ และไม่ทำสีผมหรือทาเล็บสีสันฉูดฉาดมากเกินไป
สำหรับนโยบายนี้ทาง British Airways ต้องการสนับสนุนพนักงานที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQIA+) ได้สามารถแสดงความเป็นตัวเองได้มากขึ้น และต้องการให้สายการบินมีความทันสมัยสอดคล้องกับโลกปัจจุบันที่ความหลากหลายทางเพศได้รับการยอมรับมากขึ้น แต่สำหรับสายการบินนี้ยังไม่อนุญาตให้พนักงานแต่งกายข้ามเพศได้
- การเปิดกว้างให้ผู้มีรอยสักติดปีกได้
แน่นอนว่าถ้ามีความฝันอยากจะเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน หนึ่งในข้อห้ามที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดก็คือ “ห้ามมีรอยสักนอกร่มผ้า” แต่ปัจจุบันสังคมโลกมีความหลากหลายและเปิดกว้างมากขึ้นทำให้สายการบินสัญชาติอังกฤษอย่าง Virgin Atlantic ที่เคยมีนโยบายให้แอร์โฮสเตสไม่จำเป็นต้องสวมกระโปรงหรือไม่ต้องแต่งหน้าตลอดเวลา เพื่อความคล่องตัวในการทำงานตั้งแต่ปี 2019 นั้น ได้อนุญาตให้ผู้ที่ต้องการสมัครเข้ามาเป็นพนักงานสายการบินนี้ สามารถมีรอยสักนอกร่มผ้าได้ โดยประกาศดังกล่าวเริ่มในเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพราะเชื่อว่าเป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มคนที่มีความหลากหลายสามารถเข้ามาทำงานสายอาชีพนี้ได้
รวมถึงอนุญาตให้พนักงานแต่งกายด้วยเครื่องแบบตามเพศสภาพที่ต้องการแสดงออกได้ เพื่อส่งเสริมสังคม LGBTQIA+ รวมถึงสามารถเลือกได้ว่าจะเปิดเผยคำนำหน้าชื่อที่แสดงบนป้ายชื่อหรือไม่ หากไม่ต้องการแสดงคำนำหน้าชื่อ สามารถใช้ Mx. แทน Mr. และ Ms. ได้ เพื่อสร้างความเท่าเทียมให้พนักงานทุกเพศ
- เมื่อเครื่องแบบเป็นกลางทางเพศ
อีกหนึ่ง สายการบิน ที่เริ่มเปิดกว้างในด้านการแต่งกายที่ไม่จำกัดเพศคือ Alaska Airline ที่มีนโยบายสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศผ่านเครื่องแบบที่เรียกว่า Gender-Neutral Uniform เครื่องแบบที่เป็นกลางทางเพศ เพื่อให้พนักงานที่มีความหลากหลายทางเพศได้มีทางเลือกในการแต่งกายให้เหมาะกับเพศสภาพและสรีระร่างกายมากขึ้น เพื่อจะได้ทำงานได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ
โดยก่อนหน้านี้ Alaska Airline ได้อนุญาตให้พนักงานเพศชายที่ต้องการแต่งหน้าและทาเล็บเพื่อเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจสามารถทำได้ โดยอยู่ในความเหมาะสม รวมไปถึงพนักงานที่ต้องการเจาะจมูกหรือเจาะหูหลายรูก็สามารถทำได้เช่นกัน
แม้ว่านี่เป็นแค่เพียงจุดเริ่มต้นในเรื่องของความเท่าเทียมกับเครื่องแบบซึ่งอาจเป็นเรื่องเล็กๆ แต่เรียกได้ว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีพอสมควร เพราะสายการบินที่มีนโยบายด้านนี้ล้วนเป็นสายการบินแถวหน้า รวมถึงยังเป็นการจุดประกายให้สายอาชีพอื่นเริ่มเปิดโอกาสให้กับกลุ่มความหลากหลายทางเพศ ให้สามารถมีอิสระด้านการแต่งกายในเครื่องแบบต่างๆ มากขึ้น
อ้างอิงข้อมูล : The Guardian, Euro News และ CNN