ผลสำรวจชี้ นักลงทุนรายย่อยเล็งทุนคริปโทฯ - บ.เทคยักษ์ใหญ่ในปี 2566
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานผลสำรวจจาก ‘ฟินิไมซ์’ (Finimize) แพลตฟอร์มข้อมูลเชิงลึกด้านการลงทุน เผยว่า นักลงทุนรายย่อยยังไม่หายหวาดกลัวเกี่ยวกับแนวโน้มหุ้นร่วงในปีนี้ แต่ในปี 2566 นักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่อาจลงทุนเพิ่ม และสนใจลงทุนคริปโทฯ กับบริษัทเทคยักษ์ใหญ่มากขึ้น
ผลสำรวจนักลงทุนรายย่อย 2,000 คนทั่วทวีปยุโรป เอเชีย และสหรัฐ ของฟินิไมซ์ พบว่า นักลงทุนรายย่อยมากกว่า 80% คาดว่าสถานการณ์ตลาดหุ้นที่เลวร้ายที่สุดจะสิ้นสุดภายใน 6 เดือนหน้า
และนักลงทุนรายย่อยมีแผนการลงทุนในอนาคตดังต่อไปนี้
- นักลงทุนรายย่อย 1% จะถอนทุนช่วงปีใหม่ ขณะที่ 65% ยังเดินหน้าลงทุนต่อไป และ 29% จะลงทุนเพิ่มขึ้น
-นักลงทุนรายย่อย 72% วางแผนกลับไปลงทุนหุ้นรายตัวในปีหน้า และ 62% พึงพอใจที่จะลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ อาทิ แอ๊ปเปิ้ล, ไมโครซอฟต์, กูเกิล, และเมตา ขณะที่ 38% เตรียมลงทุนในคริปโทฯ แม้ขณะนี้ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีอยู่ในขาลงจากการล้มละลายของ FTX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทฯ ของแบงค์แมน ฟรีด
-นักลงทุนรายย่อย 56% เชื่อว่าราคาบิตคอยน์จะเพิ่มขึ้นส่วน 44% คาดว่าราคาบิตคอยน์จะร่วง และนักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ประมาณ 58% จะลงทุนในคริปโทฯเพิ่ม หากมีการควบคุมและกำกับดูแล
ทั้งนี้ สิ่งที่นักลงทุนกว่า 55% กังวลมากที่สุดคือ เรื่องค่าครองชีพที่แพงขึ้น เนื่องจากเงินเฟ้อสูง และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางกระทบต่อราคาหุ้น
ด้านแม็กซ์ โรเทอรี รองประธานฝ่ายพัฒนาชุมชนฟินิไมซ์ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีว่า “ขณะนี้สถานการณ์ตลาดมีความไม่แน่นอนมากขึ้น เราคาดว่านักลงทุนรายย่อยจะลงทุนลดลงแต่ยังคงลงทุนต่อเรื่อย ๆ”
ส่วนข้อมูลจาก Indefi ธุรกิจที่ปรึกษาด้านการจัดการความมั่งคั่ง เผยว่า กลุ่มนักลงทุนรายย่อยจะถือทรัพย์สิน 61% ของทรัพย์สินทั้งหมดที่มีการจัดการทั่วโลกภายในปี 2573
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์