“ไทย” ติดประเทศจุดหมายปลายทาง จีนวางแผนเที่ยวทันที เปิดพรมแดน

เว็บไซต์ Ctrip แพลตฟอร์มข้อมูลท่องเที่ยวของจีน รายงานว่า หลังประกาศดังกล่าว มีชาวจีนเข้ามาค้นหาข้อมูลจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 10 เท่า ซึ่งประเทศและเมืองที่ติดอันดับที่ชาวจีนต้องการเดินทางไปมากที่สุด ได้แก่ มาเก๊า ฮ่องกง ญี่ปุ่น ไทย และเกาหลีใต้

ทางการจีนยังได้ลดระดับการจัดการโรคโควิด-19 จากระดับ B ที่เข้มงวด มาเป็นA จากวันที่ 8 ม.ค.ปีหน้าเป็นต้นไป เนื่องจากการระบาดโควิดรุนแรงน้อยลง แต่คำประกาศดังกล่าว ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ให้มีการกักตัวผู้ติดเชื้อโควิด และผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อ รวมไปถึงปิดเมืองอีกครั้ง 

นักวิเคราะห์ของ JPMorgan ชี้ว่า ความวิตกกังวลจากปัญหาห่วงโซอุปทานยังคงอยู่ เพราะมีคนงานจีนติดเชื้อจำนวนมาก

ข้อมูลในวันอังคารแสดงให้เห็นว่า ภาคอุตสาหกรรมจีน มีกำไรลดลง 3.6% ในเดือนมกราคมถึงพฤศจิกายนจากปีก่อนหน้า เทียบกับที่ลดลง 3.0% ในเดือนมกราคม-ตุลาคม ซึ่งสะท้อนถึงจำนวนการจำกัดการป้องกันไวรัสในเดือนที่แล้ว รวมถึงในภูมิภาคการผลิตที่สำคัญ 

แต่การยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางส่งผลดีต่อเศรษฐกิจมูลค่า 17 ล้านล้านดอลลาร์

แดน หวัง  หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Hang Seng Bank China กล่าวว่า “การเดินทางระหว่างประเทศของชาวจีน ... มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น อาจใช้เวลาอีกหลายเดือนก่อนที่จำนวนการเดินทางจะกลับสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดโควิด ”หวังกล่าว

คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน ประกาศเมื่อค่ำวันจันทร์ (26 ธ.ค.) ว่าจีนยกเลิกมาตรการกักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศเริ่ม 8 ม.ค.2566 และเตรียมอนุญาตให้ชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศได้ในเร็ว ๆ นี้

มาตรการอดทนต่อซีโร่โควิดและปิดพรมแดน ไปจนถึงล็อกดาวน์อยู่บ่อยครั้งได้ทำลายเศรษฐกิจจีนตั้งแต่ปี 2563 และยิ่งเพิ่มความไม่พอใจให้กับประชาชนครั้งใหญ่ นับตั้งแต่สี จิ้นผิงปกครองประเทศจีนปี 2555

ขณะนี้ยังไม่มีรายงานยอดผู้เสียชีวิตจีนเพิ่มจากเดิมติดต่อกัน 6 วันแล้ว ทำให้เกิดความสงสัยในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและประชาชนเกี่ยวกับข้อมูลอย่างเป็นทางการของจีน 

อย่างไรก็ตาม แพทย์ของโรงพยาบาลในปักกิ่ง ชี้ว่า ยอดผู้เข้ารักษาในโรงพยาบาลสูงขึ้น 5 - 6 เท่า ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติคาดการณ์ว่า มีชาวจีนติดเชื้อโควิดราว 1 ล้านคนต่อวัน และอย่างน้อยจะมีผู้เสียชีวิต 1 ล้านคนภายในปี 2566