กต. จัด E-visa รับนักท่องเที่ยวจีน คิกออฟไตรมาสแรก 3 แสนคน
"โฆษก กต." ยืนยันความพร้อมรับนักท่องเที่ยวชาวจีน อย่างการอำนวยความสะดวก E-visa ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ทำกับทุกๆ ประเทศ
นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับเตรียมความพร้อมรับผู้เดินทางจากจีน ภายหลังจีนผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้า-ออก ในวันที่ 8 ม.ค. 2566 ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการประชุมอย่างต่อเนื่องเพื่อจัดวางมาตรการและเตรียมตัวต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวจากจีนจำนวนมากนิยมเดินทางมาไทยและมีผลดีต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการของไทยอย่างมาก
“มาตรการผ่อนคลายของจีนไม่ได้หมายความว่า นักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางเข้ามาพร้อมกันเป็นจำนวนมาก” นางกาญจนากล่าวย้ำและว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประมาณการว่าจะเดินทางมาประมาณ 3 แสนคนในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566
ในเรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศมีความพร้อมมาโดยตลอด เห็นความสำคัญในเรื่องการท่องเที่ยว และรายได้จากการท่องเที่ยวต่อประชาชนและเศรษฐกิจของไทย ตลอดช่วงโควิด-19 ได้อำนวยความสะดวกในการเดินทางมาของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ระบบการรองรับการตรวจลงตราปัจจุบันเป็นรูปแบบ E-visa ซึ่งทางกรมการกงสุล สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยในจีน มีการเตรียมความพร้อมในประเด็นเหล่านี้ จากการประมาณการจำนวนผู้ที่จะเดินทางมาประเทศไทยในไตรมาสแรก น่าจะอยู่ในวิสัยที่สามารถบริหารจัดการได้
หน่วยงานหรืออุตสาหกรรม ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องควรเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวมาตรการเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว อยู่บนหลักการดังนี้
1.ประเทศไทยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากนานาประเทศ
2.ไทยมีความเชื่อมั่นในขีดความสามารถด้านสาธารณสุข ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าในห้วง 3 ปีที่ผ่านมา
ประเทศไทยสามารถรับมือโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี มีความพร้อมด้านระบบสาธารณสุข การฉีดวัคซีน ตลอดจนการปฏิบัติตัวของคนไทย อาทิ การสวมหน้ากากอนามัยและล้างมือด้วยแอลกอฮอลล์อย่างสม่ำเสมอในขณะนี้ ยังรอการกำหนด/ประกาศมาตรการที่ชัดเจนจากกระทรวงสาธารณสุข อาทิ การสุ่มตรวจการติดเชื้อ การประกันสุขภาพ สถานที่รองรับการตรวจ RT-PCR ในกรณีประเทศ ที่จะเดินทางกลับกำหนดให้มีการตรวจโควิด-19 ก่อนการเดินทางกลับไทยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทุกประเทศ ในปี 2565 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติในไทยประมาณ 11 ล้านคนเศษ เชื่อมั่นว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้นในปี 2566