เปิดปลายทางใหม่ในฝันนักท่องเที่ยวจีน
เมื่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคสั่งสมตลอดไตรมาสแรก คาดว่านักเดินทางชาวจีนจะเดินทางพักผ่อนในภูมิภาคเพื่อผ่อนคลายสบายใจชื่นชมธรรมชาติราวเดือน เม.ย.
ธุรกิจท่องเที่ยวนานาประเทศล้วนคึกคักเมื่อจีนเปิดพรมแดนอีกครั้ง แต่ในมุมของนักท่องเที่ยวจีนการกลับมาท่องโลกครั้งนี้ไม่เหมือนก่อนโควิด เมื่อพวกเขาปรารถนาเดินทางไปหาประสบการณ์แปลกๆ ใหม่ๆ มากขึ้น
ข้อมูลจากทริปดอทคอมกรุ๊ป (Trip.com Group) เผยว่า การจองเที่ยวบินไปต่างประเทศพุ่งขึ้น 254% เมื่อปลายเดือน ธ.ค. หลังทางการประกาศผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางในวันที่ 8 ม.ค.
เวนดี มิน หัวหน้าฝ่ายสื่อและบริหารการสื่อสารทริปดอทคอมกรุ๊ป เผยกับซีเอ็นเอ็น มองแนวโน้มการท่องเที่ยวในทางที่ดี
“การประกาศนโยบายล่าสุดกำลังกระตุ้นให้คนเดินทาง เราหวังว่าความต้องการที่อัดอั้นมานานจะแข็งแกร่ง และช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นผู้บริโภค”
หากพิจารณาจากการจองผ่านทริปดอทคอมกรุ๊ป แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวจีนหนีไม่พ้นสิงคโปร์ เกาหลีใต้ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และไทย ส่วนทริประยะไกลหนีไม่พ้นสหรัฐ สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย
“แนวโน้มเที่ยวบินระยะสั้นได้รับความนิยมเพราะราคาถูก สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวจีนอยู่แล้วแม้แต่ก่อนโควิด” มินกล่าว
ขณะที่โวลฟ์กัง จอร์จ อัลต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) สถาบันวิจัยการท่องเที่ยวต่างประเทศจีน (ซีโอทีอาร์ไอ) กล่าวว่า เป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่การท่องเที่ยวในภูมิภาคฟื้นตัวก่อน เนื่องจากการไปเที่ยวใกล้จีนเดินทางง่าย ไม่แพง แต่ช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางเร่งด่วนไม่ใช่ไปเที่ยว เช่น เดินทางทำธุรกิจ เยี่ยมครอบครัว ไปเรียนหนังสือ หรือพบแพทย์
นักเดินทางทำธุรกิจชาวจีนต้องการกลับไปเชื่อมต่อกับเขตเศรษฐกิจใหญ่ของโลกอีกครั้งหนึ่ง เช่น สหรัฐ ญี่ปุ่น และยุโรป นอกจากนี้ปลายทางอย่างสหรัฐ สหราชอาณาจักร และออสเตรเลียยังดึงดูดนักเรียนนักศึกษาชาวจีนด้วย ดังนั้นบางคนอาจวางแผนกลับไป
การเดินทางพักผ่อนระลอกแรก
ตามข้อมูลของอัลต์ การเดินทางพักผ่อนจะเริ่มเพิ่มขึ้นในไตรมาสสองของปี เมื่อกระบวนการทำหนังสือเดินทางและออกวีซาราบรื่น เที่ยวบินจะกลับมาเต็มที่
“นักเดินทางเพื่อท่องเที่ยวบางคนจะมีแรงจูงใจอย่างมากให้ไปทำพาสปอร์ต วีซ่า และหาตั๋วราคาไม่แพง คนอื่นๆ จะรอฟังเรื่องราวที่พวกหัวหอกเล่าตอนกลับมา รัฐบาลใช้เวลาสามปีทำให้คนในประเทศจีนรู้สึกกลัวโลกภายนอก บางคนจึงยังวิตกว่าปลอดภัยพอจะเดินทางแล้วหรือไม่”
ตลอดช่วงการระบาดของโควิด-19 สื่อทางการจีนและพรรคคอมมิวนิสต์ย้ำตลอดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตที่สูงมากในหลายๆ ประเทศ อาทิ สหรัฐ และสหราชอาณาจักร เปรียบเทียบกับการเสียชีวิตในจีนที่ต่ำมาก เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าระบบการปกครองอำนาจนิยมของจีนดีกว่า
เมื่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคสั่งสมตลอดไตรมาสแรก อัลต์คาดว่านักเดินทางชาวจีนจะเดินทางพักผ่อนในภูมิภาคเพื่อผ่อนคลายสบายใจชื่นชมธรรมชาติราวเดือน เม.ย.
“หลังจากความเครียดและปัญหาทั้งมวล รวมทั้งหลายๆ คนผ่อนคลายความโศกเศร้า (เนื่องจากยอดผู้เสียชีวิตจากโควิดในจีนสูง) แล้ว คาดว่าหลายๆ คนเลือกจะพักผ่อนในช่วงลองวีคเอนหรือไปพักรีสอร์ตริมหาดในเวียดนาม ไทย หรือกัมพูชา” อัลต์กล่าวต่อ
ซินนา พารูลิส คุก ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสาร บริษัทการตลาดดิจิทัล “ดรากอนเทรลอินเตอร์เนชันแนล” ชี้ว่า มัลดีฟส์เป็นแหล่งท่องเที่ยวชายหาดที่นักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักเลือกไปในปีนี้
“มัลดีฟส์มีเสน่ห์โดยเฉพาะตลาดลักซ์ชัวรีและคนที่มองหาแหล่งท่องเที่ยวชายหาดงดงาม ทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดูเหมือนฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิดได้ค่อนข้างเร็วเมื่อเทียบกับที่อื่นๆ ของโลก จึงทำให้มัลดีฟส์เป็นที่นิยมในตอนนี้”
คนอื่นๆ จะวางแผนเที่ยวเพื่อทำกิจกรรมยามว่างอย่างขี่จักรยาน ปีนเขา ชิมไวน์ ทำอาหาร และคัดลายมือ
“คนจีนจำนวนมากใช้เวลาแห่งความยากลำบากมาพัฒนาความสนใจพิเศษของตน (ในช่วงสามปีที่ผ่านมา) โควิดระบาดเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าชีวิตสั้นและเปราะบางแค่ไหน ดังนั้นการทำสิ่งที่มีความหมายสำคัญกว่า” อัลต์ขยายความ
ปลายทางสุดยอดปรารถนา
ก่อนโควิดระบาด จีนเป็นตลาดท่องเที่ยวเอาต์บาวด์ใหญ่สุดของโลกวัดจากจำนวนนักท่องเที่ยวและการใช้จ่าย ข้อมูลจากองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นดับเบิลยูทีโอ) ปี 2562 นักเดินทางชาวจีนไปต่างประเทศ 154.6 ล้านเที่ยวใช้จ่ายเกือบ 2.55 แสนล้านดอลลาร์
การคาดการณ์โดยใช้ข้อมูลจากซีโอทีอาร์ไอ การเดินทางไปต่างประเทศรวมถึงการไปฮ่องกงและมาเก๊าที่เป็นดินแดนของจีนอาจถึง 115 ล้านเที่ยว ฟื้นตัวราวสามในสี่ภายในปีนี้ แหล่งท่องเที่ยวเก่าหลายแห่งจะกลับมาเป็นปลายทางในดวงใจอีกครั้งเมื่อการท่องเที่ยวฟื้นตัว
ปี 2562 ไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวจีนมาเยือนมากที่สุดราว 11 ล้านคน กว่า 1 ใน 4 ของนักเดินทางต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทย ญี่ปุ่นตามมาติดๆ เป็นอันดับสอง นักท่องเที่ยวจีน 9.5 ล้านคนในปี 2562 เวียดนาม 5.8 ล้านคน เกาหลี ราวใต้ราว 5.5 ล้านคน และสิงคโปร์ 3.6 ล้านคน
“แหล่งท่องเที่ยวที่เคยดังมาก่อนโควิดมีแนวโน้มกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งเมื่อจีนเปิดประเทศ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจีนและดรากอนเทรลเชื่อมั่นว่า ปลายทางในเกรทเตอร์ไชนา (ฮ่องกงและมาเก๊า) เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออกจะฟื้นตัวเป็นที่แรก เพราะใกล้จีน เที่ยวบินกลับมาบินมากที่สุดนับถึงขณะนี้ และมีแนวโน้มดูแล้วปลอดภัยและง่ายที่สุดสำหรับการเดินทางออกนอกประเทศหลังโควิดทริปแรกสุด” พารูลิส-คุก ให้ความเห็น
สถานที่น่าสนใจและประสบการณ์ใหม่
นักท่องเที่ยวจีนฝันมาสามปีแล้วว่าอยากไปเที่ยวไหนและอยากนำเรื่องมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง พวกเขาสนใจจะไปหาปลายทางใหม่ๆ มากขึ้น
มินจากทริปดอทคอมยกเรื่องราวของตนเอง
“ฉันพร้อมมากที่จะเริ่มท่องเที่ยวผจญภัยอีกครั้ง ปกติก่อนโควิดฉันจะไปประเทศใหม่ๆ ปีละ 5 ประเทศ ตอนนี้เมื่อการเดินทางทำได้แล้ว ฉันก็มองหาที่ที่จะแบกเป้ลุยเดี่ยวท่องโลกให้เห็นกับตาอีกครั้ง”
คนชอบเที่ยวรายนี้ฝันไกลถึงการออกไปสำรวจไซปรัส โอมาน อิรัก รวันดา มาดากัสการ์ และนามิเบียในปีนี้
“ฉันคิดถึงอเมริกากลางเหมือนกัน แต่ต้องดูก่อนว่ามีเวลามั้ย” มินสำทับ
ความปรารถนาของมินที่จะสำรวจแหล่งที่มีนักท่องเที่ยวน้อยกว่าสะท้อนถึงเทรนด์ในหมู่นักท่องเที่ยวหาประสบการณ์ เช่น แอลเบเนียหรือจอร์เจีย
อัลต์เล่าว่า ก่อนโควิดนักเดินทางชาวจีนเริ่มเล็งแอลเบเนีย ประเทศนี้มีหมู่บ้านเก่าแก่หลายร้อยปี บรรยากาศชนบทแท้ๆ ดึงดูดนักท่องเที่ยวตามฤดูกาล เช่นเดียวกับจอร์เจียที่ให้ประสบการณ์หลากหลายทั้งการผจญภัยในเมืองในกรุงทบิลิซี สกีบนภูเขา ชายหาดทะเลดำ และสถาปัตยกรรมโบราณ
“สถานที่เหล่านี้ยังคงมีคนเข้าไปเรื่อยๆปารีสไม่น่าดึงดูดอีกต่อไป ถ้าคุณบอกเพื่อนว่าไปแอลเบเนียมา เพื่อนๆ จะคิดว่าคุณสุดยอดมาก มีรสนิยมและมีเซนส์ของการผจญภัย” อัลต์สรุป