พายุถล่มแคลิฟอร์เนีย ดับ 19 ราย ประชาชนต้องเฝ้าระวังต่อ
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พายุสร้างหายนะลูกล่าสุดพัดเข้ารัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวันเสาร์ (14 ธ.ค.) เกิดน้ำท่วมหนักในพื้นที่ที่มีน้ำขังเดิม พายุหิมะตกกระหน่ำสูง 2 เมตร และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 19 ราย
สำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งสหรัฐ (เอ็นดับเบิลยูเอส) ระบุว่า พายุลูกล่าสุดทำให้เกิดฝนตกหนัก มีหิมะตกบนภูเขาจำนวนมาก และมีลมแรง โดยคาดว่าความชื้นในมหาสมุทรแปซิฟิกจะเพิ่มขึ้นอีกในวันจันทร์ (16 ธ.ค.) และอาจเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่บริเวณแม่น้ำซาลินาสตอนล่าง ซึ่งเป็นแหล่งการเกษตรที่สำคัญทางภาคใต้ของอ่าวซานฟรานซิสโก
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพี เผยว่า ได้เห็นแม่น้ำซาลินาสเอ่อล้นตลิ่งในหลายจุด บางแห่งท่วมไร่นาเป็นระยะทางหลายร้อยหลา
อย่างไรก็ตาม เกวิน นิวซอม ผู้ว่ารัฐแคลิฟอร์เนีย เตือนเมื่อวันเสาร์ (14 ธ.ค.) ให้ประชาชนในพื้นที่คอยระมัดระวังและมีสติอย่างต่อเนื่องในอีก 1-2 วันข้างหน้า
ทั้งนี้ ตามรายงานของเอ็นดับเบิลยูเอส ระบุว่า ชาวแคลิฟอร์เนียยังคงอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังน้ำท่วม ประชาชนหลายหมื่นคนได้รับคำสั่งให้อพยพออกจากพื้นที่ และเมื่อวันเสาร์ (14 ธ.ค.)เวลาประมาณ 23.30 น. ตามเวลาสหรัฐ บ้านเรือนประมาณ 20,000 ไม่มีไฟฟ้าใช้ และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 รายแล้ว
เอ็นดับเบิลยูเอสกล่าวว่า หากฝนตกเพิ่มขึ้น 5-7 เซนติเมตร อาจทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มได้อีก พื้นที่บางส่วนของเทือกเขาเซียร์ราเนวาดาจะมีหิมะสะสมสูง 3-6 ฟุต และอาจมีลมพัดแรงในแถบตอนกลางและชายฝั่งแคลิฟอร์เนียด้วยความเร็วลมที่ 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ทั้งนี้ รัฐแคลิฟอร์เนียที่มีประชากรมากที่สุดของสหรัฐ ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักครั้งใหญ่ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีฝนตกเฉลี่ย 23 เซนติเมตร ซึ่งแถบเทือกเขาซาลินาสได้รับผลกระทบมากที่สุด