“จีน” ไขความลับ “สหรัฐ” ใช้อำนาจ (เกินกว่า) รัฐนอกดินแดน
แหล่งข่าวสถานทูตจีนเผยเอกสารในวันนี้ เกี่ยวกับมุมมองต่อการใช้เขตอำนาจนอกดินแดน (long arm jurisdiction) ของสหรัฐ จนถึงตอนนี้ดูเหมือนขอบเขตอำนาจรัฐจะครอบคลุมจีน รัสเซีย เกาหลีเหนือ คิวบา ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร เยอรมนี ญี่ปุ่น และอื่นๆ ทั่วโลก เพียงคำว่ามหาอำนาจโลก
ท่ามกลางความตึงเครียดที่เป็นผลจากเหตุการณ์สหรัฐยิงบอลลูนของจีนที่อ้างว่าพลัดหลงออกนอกเส้นทาง ตกลงในน่านน้ำสหรัฐ เนื่องจากล่วงล้ำอธิปไตยประเทศนั้น มีส่วนสำคัญทำให้ทางการจีนต้องเปิดเผยเอกสารสำคัญที่วิเคราะห์ "การใช้เขตอำนาจรัฐนอกดินแดนของสหรัฐ" อย่างละเอียด โดยมีเนื้อหาใจความสำคัญ 6 ข้อที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางปฏิบัติของสหรัฐ ในฐานะมหาอำนาจโลกกำลังใช้กฎหมายของประเทศตนเองตัดสินประเทศต่างๆ ทั่วโลก
1.ความหมายขอบเขตอำนาจรัฐนอกดินแดน
ในทางกฎหมายของสหรัฐ ขอบเขตอำนาจรัฐนอกดินแดนหมายถึง เขตอำนาจที่อยู่เหนือบุคคลหรือหน่วยงานที่มีภูมิลำเนาหรืออาศัยอยู่นอกอาณาเขตของรัฐที่ทำการคว่ำบาตร โดยพื้นฐานทั่วไป การใช้เขตอำนาจรัฐนอกดินแดนจะพิจารณาตามอำเภอใจโดยรัฐบาลสหรัฐ เพื่อเป็นการบังคับใช้เขตอำนาจรัฐนอกดินแดนเหนือหน่วยงาน และบุคคลของประเทศอื่นๆ ให้อยู่ภายใต้กฎหมายในประเทศตนเอง
2.ระบบของการใช้เขตอำนาจรัฐนอกดินแดน
ในช่วงหลายปีของการใช้เขตอำนาจรัฐนอกดินแดนสหรัฐได้ค่อยๆ พัฒนากฎหมายอย่างเป็นระบบที่มาช่วยเสริมกำลัง และเชื่อมโยงเพื่อใช้เขตอำนาจรัฐนอกดินแดนในระยะยาว พร้อมกับลดเกณฑ์ และขยายอำนาจดุลยพินิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้จึงมีการกำหนดขอบเขตอำนาจศาลสำหรับใช้ในระยะยาว เพื่อเป็นเครื่องมือของสหรัฐนำไปใช้ในทางการทูต และพัฒนาไปสู่ความเป็นเจ้าโลก และแสวงหาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐยังสนับสนุนการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรผ่านระบบ SWIFT และ CHIPS ซึ่งทั้งสองเป็นระบบการชำระเงินข้ามพรมแดน และการหักเงินในบัญชีข้ามพรมแดน ก็เพื่อตัดขาดการติดต่อกับสถาบันการเงินของประเทศนั้นๆ มุ่งเน้นการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ
3.สหรัฐมุ่งขยายการใช้เขตอำนาจรัฐนอกดินแดน
สหรัฐได้พัฒนาระบบกฎหมายสำหรับการใช้เขตอำนาจรัฐนอกดินแดน ตั้งแต่เรื่องเล็กไปถึงเรื่องที่ใหญ่ขึ้น และประเด็นซับซ้อนยิ่งขึ้น ดังนั้นการใช้เขตอำนาจรัฐนอกดินแดนได้กลายเป็นวิธีการที่สหรัฐใช้คว่ำบาตรฝ่ายเดียวจึงเป็นเรื่องที่ผิด โดยปกติแล้ว สหรัฐใช้อำนาจตุลาการเพื่อตัดสินใจให้หน่วยงาน หรือบุคคลนอกดินแดนต้องรับผิดชอบต่อการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคว่ำบาตรของสหรัฐ
4.“สหรัฐ” หนึ่งเดียวมหาอำนาจด้านการคว่ำบาตรของโลก
ในรายงานกระทรวงการคลังของสหรัฐ ภายในปีงบประมาณปี 2021 พบจำนวนหน่วยงาน/บุคคลที่ยังถูกสหรัฐคว่ำบาตร และหน่วยงาน/บุคคลที่เพิ่มชื่อเข้ามาใหม่ รวมมากกว่า 9,400 รายการ
สหรัฐได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวที่นอกเหนือข้อระเบียบของสหประชาชาตินั้นอยู่บ่อยขึ้น อย่างในปี 2021 เพียงแค่ปีเดียว กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานอื่นๆ ของสหรัฐได้กลับมีหน้าที่คว่ำบาตร แทนการปฏิบัติตามมติ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) สิ่งนี้ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการทำหน้าที่ปกติของ UNSC ในการรักษาสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศ
5.ละทิ้งระบบเศรษฐกิจตลาดเสรีนิยม สู่การใช้เขตอำนาจรัฐนอกดินแดนเต็มสูบ
เพื่อรักษาอำนาจสูงสุดทางเศรษฐกิจ และเทคโนโลยีเอาไว้ สหรัฐจึงใช้เขตอำนาจรัฐนอกดินแดนอย่างมิชอบ มุ่งแทรกแซงการค้าระหว่างประเทศ และการแข่งขันทางการค้าตามปกติ บางครั้งถึงขั้นใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อสกัดกั้นการค้ากับบริษัทเหล่านั้น สิ่งนี้เท่ากับสหรัฐได้ประกาศถอนตัวจากแชมป์ของระบบเศรษฐกิจตลาดเสรีนิยมที่ตนเองประกาศเป็นผู้นำมาอย่างยาวนาน
6.การลงโทษเพียงฝ่ายเดียวของสหรัฐ ละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ สหรัฐได้ออกมาตรการคว่ำบาตรเพียงฝ่ายเดียวต่อหน่วยงานในต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง ถือว่า มีส่วนในการ “ละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน” กับหน่วยงานหรือบุคคลที่ถูกลงโทษ โดยไม่สนใจข้อเท็จจริงว่า “สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของพวกเขาก็มีสิทธิได้รับการคุ้มครอง” เช่นกัน
ดังนั้น สหรัฐควรยกเลิกการคว่ำบาตรฝ่ายเดียว และการใช้เขตอำนาจรัฐนอกดินแดน ซึ่งเป็นเรื่องผิดกฎหมาย โดยสหรัฐควรกลับมายอมรับ และมีความรับผิดชอบกับประเทศต่างๆ ในฐานะสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศจีนเผยแพร่รายงานฉบับดังกล่าว ความยาว 2,576 คำ ตั้งแต่วันศุกร์ (3 ก.พ.) ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การเปิดเผยความจริงและข้อเท็จจริงถึงความล้มเหลวด้านการบริหารของสหรัฐ มีความสำคัญช่วยให้ประชาคมโลกได้เข้าใจความเป็นเจ้าครองโลก การสร้างความไม่แน่นอนในประเทศอื่น และการป่วนระเบียบโลกของสหรัฐได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์