สหรัฐจบภารกิจกู้ซาก ถึงเวลาวิเคราะห์ไส้ในบอลลูนจีน!

Key points:

• สหรัฐจบภารกิจกู้ซากบอลลูนจีน เมื่อวันพฤหัสบดี
• กู้วัตถุได้จำนวนมาก  เช่น โครงสร้างบรรทุก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และใยแก้ว 
• ทั้งหมดนำไปวิเคราะห์ที่ห้องแล็บเอฟบีไอในเวอร์จิเนีย
• เศษซากวัตถุอีกสามลูกอาจกู้ไม่ได้ และวิเคราะห์ไม่ได้ถ้าไม่มีซาก

 

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน กองบัญชาการสหรัฐภาคเหนือแถลงเมื่อวันศุกร์ (17 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น เศษซากชิ้นสุดท้ายจากบอลลูนจีนซึ่งถูกขีปนาวุธไซด์วินเดอร์ (Sidewinder) ยิงตกเมื่อวันที่ 4 ก.พ. กำลังถูกส่งไปวิเคราะห์ที่ห้องทดลองเอฟบีไอในรัฐเวอร์จิเนีย รอยเตอร์เป็นสื่อสำนักแรกที่รายงานว่า ภารกิจกู้ซากบอลลูนจีนยุติลงแล้วเมื่อวันพฤหัสบดี (16 ก.พ.)

“การกอบกู้วัตถุได้จำนวนมากทีเดียว เช่น โครงสร้างบรรทุก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และใยแก้วส่วนหนึ่ง ทั้งหมดตอนนี้อยู่ที่ห้องแล็บเอฟบีไอในแควนติโก” นายจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐกล่าวที่ทำเนียบขาวและว่า สหรัฐได้เรียนรู้มากมายจากการสังเกตบอลลูนลอยเหนือท้องฟ้า

“เราเชื่อว่าจะเรียนรู้ได้มากยิ่งขึ้นด้วยการศึกษาไส้ใน ดูวิธีการทำงาน และขีดความสามารถของมัน”

ทั้งนี้ เรือกองทัพเรือและเรือยามชายฝั่งที่ระดมค้นหาในทะเลมาเกือบสองสัปดาห์ออกจากพื้นที่แล้ว กองบัญชาการภาคเหนือยกเลิกประกาศเขตปลอดภัยทางอากาศและทางทะเล

กองทัพเชื่อว่า รวบรวมเซ็นเซอร์และอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์สำคัญของบอลลูนได้ทั้งหมด รวมถึงโครงสร้างใหญ่ ซึ่งช่วยให้เจ้าหน้าที่ต่อต้านข่าวกรองตัดสินได้ถึงวิธีที่รัฐบาลปักกิ่งอาจรวบรวมและส่งข้อมูลข่าวกรอง

เหตุบอลลูนสร้างความปั่นป่วนในวอชิงตัน จนกองทัพสหรัฐต้องระแวดระวังท้องฟ้าหาวัตถุที่เคยหลุดรอดเรดาร์ไปได้ กองบัญชาการภาคเหนือยิงวัตถุไม่ระบุที่มาตกอีกสามลูกระหว่างวันที่ 3-4 ก.พ. แต่รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน พยายามลดความคาดหวังเรื่องการกู้คืนวัตถุทั้งสามลูก เนื่องจากเกิดฝนตกหนัก วัตถุลูกหนึ่งตกลงในทะเลสาบฮูรอนที่น้ำลึกมาก

“เราทุกคนต้องยอมรับความเป็นไปได้ที่ว่า เราอาจกู้คืนไม่ได้” เคอร์บีกล่าวและว่าถ้าไม่เจอเศษซากย่อมยากที่จะระบุได้ว่าวัตถุเหล่านั้นคืออะไร 

เหตุการณ์บอลลูนยังทำให้แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เลื่อนการเดินทางไปเยือนปักกิ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศร้าวฉานหนักขึ้นไปอีก ซึ่งทริปของบลิงเคนจะเป็นการเยือนจีนครั้งแรกของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐในรอบห้าปี และทั้งสองฝ่ายมองว่าเป็นโอกาสกระชับความสัมพันธ์ให้มั่นคงขึ้น

นับจากนั้นทางการสหรัฐพยายามหาทางให้บลิงเคนได้พบกับหวัง อี้ เบอร์หนึ่งด้านการต่างประเทศของจีน นอกรอบการประชุมความมั่นคงมิวนิคที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันศุกร์ (17 ก.พ.)

รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ที่ไปร่วมประชุมมิวนิคด้วย ชี้แจงการจัดการบอลลูนและการยิงวัตถุอื่นตกอีกสามลูกของรัฐบาลกับสถานีโทรทัศน์ MSNBC ว่าจำเป็นต้องยิงบอลลูนจีน

“เพราะเรามั่นใจว่า จีนใช้มันสอดแนมชาวอเมริกัน เราจะคงมุมมองสิ่งที่ควรจะเป็นในความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐเอาไว้ นั่นจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่แน่นอนว่าบอลลูนไม่มีประโยชน์”