“จีน" กลัวความเสี่ยงวิกฤติ SVC ฉุด ศก.ประเทศตกต่ำ
บรรดานักลงทุนในหุ้นจีนที่ผิดหวังกับเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนที่ต่ำกว่าที่คาดไว้ในปีนี้ จะยิ่งท้อใจยิ่งกว่าเดิมกับการล้มละลายภายใน 48 ชั่วโมงของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB)
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวเมื่อวานนี้ (12 มี.ค.) ว่า ดัชนี CSI300 ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น ร่วงลง 4% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง ดิ่งลง 6% หลังจากจีนกำหนดเป้าหมายการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เพียง 5% ในปี 2566 ในระหว่างการประชุมประจำปีของสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ทำให้ความหวังในการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ริบหรี่ลง
แนวโน้มของตลาดอาจร่วงลงอีก หลังจากการล้มละลายอย่างปัจจุบันทันด่วนของ SVB ซึ่งทำให้เกิดการถกเถียงอย่างดุเดือดในจีนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับผลกระทบของการล้มละลายดังกล่าว
หยวน หยูเว่ย ผู้จัดการฝ่ายเฮดจ์ฟันด์ของ วอเตอร์ วิสดอม แอสเซท เมเนจเมนต์ (Water Wisdom Asset Management) ให้ความเห็นว่า “ความล้มเหลวของ SVB เป็นตัวชี้วัดของความเสี่ยงระดับมหภาค สะท้อนให้เห็นว่าราคาสินทรัพย์ได้รับกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางได้อย่างไร”
หยวนคาดการณ์ว่า ธนาคารที่มีจำนวนเงินกู้สูงแต่มีสินทรัพย์สภาพคล่องต่ำจะพบเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก และแม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะไม่ก่อให้เกิดวิกฤติทางการเงินอีก แต่อาจส่งผลกระทบทางจิตวิทยาในแง่ลบต่อตลาดจีน
ด้านธนาคารเพื่อการพัฒนาเซี่ยงไฮ้ผู่ตงของจีน ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนในจีนกับ SVB พยายามคลายกังวลแก่ลูกค้าท้องถิ่น โดยกล่าวเมื่อวันเสาร์ (11 มี.ค.) ว่า โครงสร้างธุรกิจยังคงแข็งแกร่งและมีงบดุลบัญชีสำหรับการดำเนินงานแยกต่างหาก
อย่างไรก็ตาม บริษัทสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีของจีนจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่มีเงินทุนเป็นสกุลดอลลาร์นั้น มีการเปิดบัญชีกับ SVB ในสหรัฐ