โพลล์ชี้ 'ไบเดน' คว่ำ 'ทรัมป์' รีแมทช์ศึกเลือกตั้งปธน.ปี 67
ผลการสำรวจพบว่า หากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2567 เป็นการแข่งขันกันของคู่ชิงเดิมในปี 2563 ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต และนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน ปธน.ไบเดนก็จะยังคงมีชัยชนะเหนือนายทรัมป์
ผลการสำรวจของวอลล์สตรีท เจอร์นัล ซึ่งได้จัดทำขึ้นในช่วงกลางเดือนนี้ พบว่า ปธน.ไบเดนมีคะแนนนำนายทรัมป์อยู่ 3% โดยคาดว่าปธน.ไบเดนจะได้คะแนนเสียง 48% ขณะที่นายทรัมป์ได้รับ 45%
นอกจากนี้ สำนักข่าว NBC เปิดเผยผลการสำรวจความพึงพอใจของชาวอเมริกันต่อการทำงานของปธน.ไบเดน พบว่าอยู่ที่ระดับ 41% ในเดือนเม.ย. ซึ่งแม้ต่ำกว่า 57% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่เขาเคยได้รับ แต่ก็สูงกว่าระดับ 39% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในเดือนพ.ค.2565
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ปธน.ไบเดนยังคงถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับพรรคเดโมแครตในการสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐกับนายทรัมป์ ซึ่งแม้ปธน.ไบเดนจะมีอายุมาก แต่เขาก็มีประสบการณ์มานานหลายปีจากการเป็นรองประธานาธิบดีและประธานาธิบดีสหรัฐในการรับมือกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในเวทีโลก
ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ยังคงเดินหน้าทำสงครามในยูเครน และจีนยังคงต้องการแผ่อำนาจในภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะในทะเลจีนใต้
ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนประกาศตัวอย่างเป็นทางการในวันนี้ในการลงชิงชัยเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2567
"เมื่อผมประกาศว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อ 4 ปีก่อน ผมเคยบอกว่า เรากำลังทำสงครามสำหรับจิตวิญญาณแห่งอเมริกา และขณะนี้เราก็ยังคงอยู่ในการทำสงครามดังกล่าว ปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ก็คือ ในช่วงหลายปีข้างหน้า เราจะมีอิสรภาพมากขึ้นหรือน้อยลง มีสิทธิมีเสียงมากขึ้นหรือน้อยลง ผมรู้ว่าผมต้องการให้คำตอบคืออะไร และผมคิดว่าพวกคุณก็เช่นกัน นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมานิ่งนอนใจ และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ผมตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นสมัยที่ 2" ปธน.ไบเดนกล่าวในคลิปวิดีโอที่มีการเผยแพร่ในวันอังคาร(25เม.ย.)
ขณะนี้ ปธน.ไบเดนวัย 80 ปี ถือเป็นผู้นำสหรัฐที่มีอายุมากที่สุดขณะดำรงตำแหน่ง และหากเขาคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งปีหน้า และได้ครองทำเนียบขาวอีก 4 ปี ก็จะทำให้เขามีอายุ 86 ปีขณะสิ้นสุดการดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2
ด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ประกาศตัวก่อนหน้านี้ในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ขณะที่ผลสำรวจพบว่า นายทรัมป์ยังคงมีคะแนนนำผู้สมัครคนอื่นๆในการคัดเลือกเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันสู้ศึกเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า
นายทรัมป์พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2563 ต่อนายไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต แต่เขาปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ โดยอ้างว่าถูกปล้นชัยชนะ ขณะที่มีการโกงเลือกตั้ง
หากนายทรัมป์และปธน.ไบเดนต่างประสบความสำเร็จในการได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันและเดโมแครตในการสู้ศึกเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย.2567 ก็จะเป็นการรีแมทช์คู่ชิงในปี 2563 และถือเป็นการแก้มือของนายทรัมป์ ซึ่งแม้จะเพลี่ยงพล้ำพ่ายแพ้การเลือกตั้งก่อนหน้านี้ แต่คาดว่าเขายังคงมีฐานเสียงจำนวนมากที่ยังคงจงรักภักดีและพร้อมที่จะสนับสนุนให้เขากลับเข้าทำเนียบขาวอีกครั้ง