‘แคนาดา’ สั่งอพยพประชาชนหลายหมื่น หนีไฟป่า - น้ำท่วมเฉียบพลัน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทางการแคนาดาสั่งอพยพประชาชนกว่า 13,000 คนในรัฐอัลเบอร์ตาเมื่อวันศุกร์ (5 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ท่ามกลางเหตุไฟป่าเกิดขึ้น 78 จุด หนึ่งในนั้นเกิดขึ้นในเขต Little Rad River Cree Nation ซึ่งรุนแรงที่สุด โดยครอบคลุม 3 ชุมชนทางตอนเหนือของเมืองนี้ ขณะที่เหตุไฟป่าที่ทะเลสาบฟ็อกซ์กินพื้นที่กว่า 9,000 ไร่ ทั้งยังเผาผลาญบ้านเรือน หรือแม้แต่สถานีตำรวจ

ก่อนหน้าเพียงหนึ่งวัน ประชาชนราว 7,000 คนในเขตดรัยตัน วัลเลย์ ห่างจากเมืองเอ็ดมันตันไปทางตะวันตก 140 กม.ก็ได้รับคำสั่งให้อพยพในช่วงกลางคืนของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

คริสตี้ ทัคเกอร์ ผู้จัดการหน่วยงานด้านข้อมูลรัฐอัลเบอร์ตา กล่าวว่า ในปีนี้เกิดเหตุไฟป่า 348 ครั้ง และครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 156,000 ไร่ นี่เป็นเหตุการณ์สะท้อนนัยสำคัญเพราะเกิดไฟป่าบ่อยขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา และรุนแรงมากขึ้นอีกด้วย 

ส่วนที่บริติชโคลัมเบีย น้ำในแม่น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน ส่งผลให้ต้องปิดถนนทางหลวงในชุมชนต่างๆ ทั่วพื้นที่ภายในเมืองนี้ รวมถึงเขตแคชครีกและแกรนด์ฟอร์กส์

รายงานระบุว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางตะวันตกของแคนาดาต้องทนกับสภาพอากาศฤดูใบไม้ผลิที่หนาวเย็น แต่แล้วอุณหภูมิกลับเริ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และไม่เป็นไปตามฤดูกาล โดยอุณหภูมิสูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 -  15 องศาเซลเซียสในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ทำให้เกิดทั้งไฟป่าและน้ำท่วม

จากการคาดการณ์ฝนตกหนัก รัฐบาลบริติชโคลัมเบียเรียกร้องให้ชุมชนเตรียมพร้อมสำหรับเหตุน้ำท่วมในช่วงสุดสัปดาห์นี้

กระทรวงการจัดการเหตุฉุกเฉินระบุในถ้อยแถลงว่า  “อุณหภูมิที่อุ่นขึ้นในพื้นที่ได้เป็นตัวเร่งให้หิมะละลาย และทำให้แม่น้ำและลำธารมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว” โดยประชาชนควรเฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิด