สงครามราคาอีวี กระทบตลาดยานยนต์จีนโตช้า ลูกค้ารอลดราคาค่อยซื้อ
ตลาดยานยนต์จีนโตช้าลง หลังเกิดสงครามราคารถยนต์ไฟฟ้า ส่งผลให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ล่าช้า เพราะคาดว่าผู้ผลิตอาจลดราคาลงอีก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์ส่วนบุคคลเมื่อเดือนเม.ย. ในจีน โต 2.1% จากเดือนก่อน ตอกย้ำว่าอุตสาหกรรมเติบโตช้าลง เนื่องจากการปรับลดราคารถยนต์ไฟฟ้า และได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลลดลง
สมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีน (ซีพีซีเอ) รายงานเมื่อวันอังคาร (8 พ.ค.) ว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์ในเดือนเม.ย. อยู่ที่ 1.65 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 54.5% เพราะการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโควิด-19 กระทบการผลิต และยอดขายรถยนต์ในจีน
สำหรับ 4 เดือนแรกของปี 2566 ยอดจำหน่ายรถยนต์ลดลง 1.4% เมื่อเทียบปีต่อปี สู่ระดับ 5.98 ล้านคัน
ยอดขายรถยนต์ NEV ทั้งรถยนต์ไฟฟ้า และปลั๊กอินไฮบริดดิ่ง 3.6% ในเดือนเม.ย. และคิดเป็นสัดส่วน 32% ของการจำหน่ายรถยนต์ทั้งหมดในเดือนก่อน
เวย์ส คอนซัลติง ระบุว่า ตลาดยานยนต์จีนที่มีผู้ผลิตจำนวนมาก จัดแสดงรถยนต์กันอย่างคับคั่ง โดยในงานเซี่ยงไฮ้ ออโต โชว์เมื่อเดือนเม.ย. มีรถยนต์จัดแสดงทั้งหมดราว 300 รุ่น และเป็นรถยนต์ NEV มากถึง 172 รุ่น
ซีพีซีเอ รายการครั้งก่อนว่า หลังจากแบรนด์รถยนต์ 40 แห่งในปีนี้ ร่วมทำสงครามราคาที่เริ่มต้นจากเทสลา และลดราคารถยนต์รุ่นที่ขายดีที่สุด ทำให้ลูกค้าจำนวนมากเลือกซื้อรถยนต์ช้าลง เพื่อรอรับส่วนลดรถยนต์มากขึ้นอีก
อย่างไรก็ตาม บีวายดี ยังคงเป็นผู้นำตลาดอันดับแรก ด้วยส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 37% ขณะที่เทสลามีส่วนแบ่งตลาด 7.6%
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์