บ้านแพง คนรุ่นใหม่ ‘เอื้อมไม่ถึง’ เมื่อราคาที่อยู่อาศัย เป็นปัญหาระดับชาติ
ปัญหา “บ้านแพง” เรื้อรังต่อเนื่อง ทำคนหนุ่มสาวสิงคโปร์จ่อย้ายออกจากเมืองหลวง สู้ค่าเช่า-ราคาซื้อขายไม่ไหว แม้รัฐผลักดัน ปั้นโมเดล “HDB Flat” สร้างบ้านเพื่อความยั่งยืน แต่ก็เต็มไปด้วยเกณฑ์อันเข้มงวด ต้องมีอายุ 35 ปีขึ้น-กีดกันคู่รักเพศเดียวกัน
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานความเคลื่อนไหว ภายหลังรัฐบาลสิงคโปร์มีมติคณะรัฐมนตรีปรับขึ้นภาษีอสังหาริมทรัพย์อีกครั้ง หวังเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงให้กับคนรุ่นใหม่ เนื่องจาก ปัญหาเรื่องราคาซื้อขาย ค่าเช่าบ้าน-คอนโดมิเนียมแพงขึ้นจนคนรุ่นใหม่เอื้อมไม่ถึง
โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลสิงคโปร์ก็ได้มีความพยายามในการแก้ปัญหาดังกล่าว ด้วยการเก็บภาษีที่อยู่อาศัยกับต่างชาติกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ แต่วิกฤติก็ไม่ได้หยุดลงแค่นั้น เพราะไม่ใช่แค่ชาวต่างชาติที่มองว่า ราคาอสังหาฯ ในเมืองสิงโตพ่นน้ำแห่งนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่สำหรับคนพื้นเมืองเองก็กำลังเผชิญกับความเจ็บปวดที่ว่านี้ไม่ต่างกัน
“โซนัม” หญิงสาวชาวสิงคโปร์วัย 33 ปี ให้ข้อมูลกับบลูมเบิร์กว่า อายุของเธอยังไม่เข้าเกณฑ์ที่จะซื้อ “HDB Flat” แฟลตที่เกิดขึ้นจากด้วยวัตถุประสงค์ที่รัฐต้องการสนับสนุนให้ประชาชนมีบ้านในราคาที่เหมาะสม เธอเริ่มตั้งคำถามถึงการแก้ปัญหาของรัฐบาล ขณะเดียวกัน โซนัมเองก็เป็น “Voter” พรรคกิจสังคม (People’s Action Party: PAP) ที่นำโดยนายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง มาโดยตลอด
ปัจจุบัน เธอไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายในการเช่าบ้านได้ จึงตัดสินใจย้ายมาอยู่ประเทศไทย หลังจากที่ค่าเช่าบ้านที่สิงคโปร์เพิ่มขึ้นกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ โดยโซนัมเผยต่อด้วยว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้าที่กำลังจะมาถึง เธอตัดสินใจที่จะเลือกพรรคฝ่ายค้านเป็นรัฐบาล
สำหรับพรรคกิจสังคมแล้ว การแก้ปัญหาเรื่องราคาที่อยู่อาศัยมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยพรรคตั้งเป้าเป็นรัฐบาลในสมัยที่ 16 ต่อไป มองว่า ฐานเสียงของตนมีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว เฉพาะในปีพ.ศ. 2563 ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคกิจสังคมได้คะแนนไปมากถึง 89 เปอร์เซ็นต์ ขณะเดียวกันก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหา ยังมีความกังวลเกี่ยวกับราคาอสังหาฯ จนตัดสินใจขึ้นภาษีต่างชาติอีก 30 เปอร์เซ็นต์ รวมเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับว่า เป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับบรรดาเมืองใหญ่ทั่วโลก
ส่วนโครงการ “HDB Flat” กว่า 100 โครงการ ที่รัฐบาลตั้งใจเปลี่ยนชุมชนแออัดบนตึกสูง ให้กลายเป็นที่อยู่ได้อย่างยั่งยืนก็มีข้อจำกัด กฏเกณฑ์ และเงื่อนไขหลายประการที่เอื้อต่อคู่สามี-ภรรยามากกว่ากลุ่มคนโสด รวมถึงคู่รักเกย์หรือคู่รักเพศเดียวกันก็ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ เนื่องจาก สิงคโปร์ยังคงมีกฎหมายห้ามคู่รักเพศเดียวกันแต่งงานบัญญัติในรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์สวนทางกับภาวะชะลอตัวที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก โดยสาเหตุหลักมาจากการหลั่งไหลเข้ามาของทุนจีนและต่างชาติในตลาด ด้วยความต้องการซื้อที่เพิ่มขึ้น ราคาค่าเช่าทั้งบ้านแนวราบและอพาร์ตเมนต์จึงปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย ตามรายงานข่าวระบุว่า ราคาค่าเช่าบ้านในสิงคโปร์สูงแซงหน้ามหานครนิวยอร์กไปเรียบร้อยแล้ว
แม้ว่าการขึ้นค่าเช่าและภาษีที่สูงขึ้น จะเกิดจากความต้องการในการลดสัดส่วนการไหลเข้ามาของทุนต่างชาติ แต่จากการสำรวจในปีที่ผ่านกลับพบว่า ชาวสิงคโปร์ที่มีอายุระหว่าง 22-29 จำนวน 2 ใน 3 ยังคงเลือกเช่าบ้านมากกว่าซื้อ เนื่องจาก ยังมีเงินออมไม่เพียงพอ
“ราคาบ้านตอนนี้คงไม่ได้ทำให้คนส่วนใหญ่ในประเทศไม่มีที่อยู่อาศัยหรอก ตอนนี้ทางเลือกเดียวของเรา คือ ซื้อกล่องรองเท้า (หมายถึง HDB Flat) ในราคาบ้าๆ หรือไม่ก็เช่าเอาเท่านั้นเอง” แหล่งข่าวชาวสิงคโปร์กล่าว
อ้างอิง: Bloomberg, Bangkokbiznews 1, Bangkokbiznews 2