สื่อนอกเผย ผลเลือกตั้งชี้ คนไทยอยากเปลี่ยนแปลง-จับตาเศรษฐกิจไตรมาส4

สื่อนอกเผย ผลเลือกตั้งชี้ คนไทยอยากเปลี่ยนแปลง-จับตาเศรษฐกิจไตรมาส4

สื่อนอกสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองไทย ว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยและการเมืองไทยอย่างไรบ้าง ซึ่งล่าสุดพรรคก้าวไกลประกาศจัดตั้งรัฐบาลแล้ว

สำนักข่าวซีเอ็นบีซี สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองไทย หลังผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการแสดงให้เห็นว่า พรรคก้าวไกลได้จัดตั้งรัฐบาล แล้วจะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไรบ้าง

ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการออกมา ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าที่ 33.87 บาทต่อดอลลาร์ และหุ้นไทยปรับตัวลดลงกว่า 13 จุด มาเคลื่อนไหวที่ระดับ 1,574 จุด หรือลดลงราว 0.89% เมื่อเช้านี้

สื่อนอกเผย ผลเลือกตั้งชี้ คนไทยอยากเปลี่ยนแปลง-จับตาเศรษฐกิจไตรมาส4 นลิน ฉัตรโชติธรรม

มุมมองเศรษฐกิจไทย

ก่อนหน้านี้ รายงานอื่น ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของไทยในไตรมาสแรก โต 2.7% เมื่อเทียบปีต่อปี สูงกว่าคาดการณ์ที่ 2.3% 

ด้าน "นลิน ฉัตรโชติธรรม" นักเศรษฐศาสตร์ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย วิเคราะห์ก่อนผลการเลือกตั้งออกมา ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยอาจเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในอีกหลายเดือนหลังจากนี้

เราคาดว่าการเติบโตของจีดีพีในไตรมาสแรกยังคงนิ่ง แต่บ่งชี้ได้ว่าเศรษฐกิจจะถึงจุดต่ำสุดในไตรมาส 4 ของปี 2566 ซึ่งอาจหนุนให้ธนาคารกลางแห่งประเทศไทยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย” นลิน ระบุ

ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยประเทศไทยอยู่ที่ 1.75% และจะประชุมอีกครั้งในวันที่ 31 พ.ค. ซิตี้แบงก์จึงคาดว่า แบงก์ชาติจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25%

 

นลินคาดการณ์อีกด้วยว่า รัฐบาลใหม่จะได้รับการยืนยันในเดือน ส.ค. และงบประมาณรายปี 2566 มีกำหนดประกาศในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี

ในระยะกลาง ภาพรวมเศรษฐกิจอาจมีความเสี่ยงจากนโยบายเศรษฐกิจแบบประชานิยมมากขึ้น ซึ่งอาจเกิดคำถามมากมายต่อวินัยการคลังในอนาคต” นลิน ระบุ

สื่อนอกเผย ผลเลือกตั้งชี้ คนไทยอยากเปลี่ยนแปลง-จับตาเศรษฐกิจไตรมาส4 ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์

การเมืองไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป

"ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์" อาจารย์ประจำวิชาการเมืองและความสัมพันธ์ต่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซี เกี่ยวกับผลการเมืองไทยว่า

“เราต้องคำนึงว่า การเมืองมีการดำเนินงานที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมมากมายตลอดหลายปีที่ผ่านมา พรรคที่มีเสียงข้างมากที่สุด ควรได้จัดตั้งรัฐบาล แต่นี่ไม่ใช่ประเด็น เพราะพรรคการเมืองไทยมี 3 ขั้นตอนในการจัดตั้งรัฐบาล 1.ชนะเสียงข้างมาก 2.หาพรรคร่วมรัฐบาล และ 3. สิ่งที่ท้าทายที่สุดคือการเลือกนายกรัฐมนตรี”

อาจารย์ฐิตินันท์ เผยว่า ประเทศไทยอาจเกิดความไม่สงบ ถ้ามีการล้มล้างกฎเกณฑ์ บิดเบือน หรือโกงผลการเลือกตั้งที่เราได้เห็นเมื่อวันอาทิตย์ (14 พ.ค.) ซึ่งผลการเลือกตั้งเมื่อวานนี้ให้ผลลัพธ์ที่ลึกซึ้งและสะเทือนการเมืองไทย 20 ปีที่ผ่านมา

"เรายึดติดอยู่แค่ทักษิณ และการต่อต้านระบอบทักษิณ แต่ด้วยชัยชนะของพรรคก้าวไกลเมื่อวาน แสดงให้เห็นว่า คนไทยใช้เสียงของตัวเองเพื่อการเปลี่ยนแปลงและการปฏิรูปประเทศ" อาจารย์ฐิตินันท์ กล่าว และว่าพรรคก้าวไกลไม่เหมือนพรรคเพื่อไทย"

อย่างแรกคือ พรรคไม่ได้เป็นแนวร่วมทักษิณ มีจุดยืนที่แตกต่างกันมาก และไม่ได้เป็นพรรคประชานิยม พรรคก้าวไกลต้องการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง, ปฏิรูปทหาร, ปฏิรูปการปกครองโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และปฏิรูปตุลาการ ซึ่งเป็นรากฐานของวิกฤติประเทศตลอด 20 ปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ อาจารย์ฐิตินันท์ คาดว่า การจัดการนโยบายเศรษฐกิจแบบก้าวหน้าของรัฐบาลจากพรรคก้าวไกลที่เป็นผู้นำเสียงข้างมาก ที่มีทั้งการสนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศ ต่อต้านการผูกขาดด้วยการแข่งขันกันของบริษัทขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง จะทำให้ได้พรรคร่วมรัฐบาลมากขึ้น