สรุปเหตุผล 5 ข้อ ! ที่ทำให้ "สหรัฐ“ อยากแบน ”ติ๊กต็อก"

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงาน (17 พ.ค.) ว่า ผู้ว่าการรัฐมอนแทนาของสหรัฐ ลงนามกฎหมาย ห้ามติ๊กต็อกให้บริการในรัฐ เพื่อช่วยปกป้องชาวมอนแทนาจากการสอดแนมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ทำให้มอนแทนากลายเป็นรัฐแรกในสหรัฐ ที่สั่งห้ามใช้บริการติ๊กต็อก แอปพลิเคชันวีดิโอขนาดสั้นที่นิยมไปทั่วโลก

หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมสหรัฐอยากแบนติ๊กต็อกอย่างจริงจัง สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รวบรวมเหตุผลหลัก 5 ข้อ ที่สหรัฐกังวลเกี่ยวกับติ๊กต็อกไว้ดังนี้

1.ติ๊กต็อกมีรัฐบาลจีนหนุนหลัง

"คริสต์ เวรย์" ผู้อำนวยการเอฟบีไอ บอกไว้เมื่อเดือน พ.ย. 2565 ว่า ติ๊กต็อกมีความเสี่ยงต่อความมั่นคงแห่งชาติ เพราะบริษัทสัญชาติจีนต้องปฏิบัติตามที่รัฐบาลต้องการ ทั้งในแง่ของการแบ่งปันข้อมูลหรือบริการต่าง ๆ ในฐานะเครื่องมืออย่างหนึ่งของรัฐบาลจีน

สมาชิกสภาคองเกรส ตำหนิแอปฯเมื่อเดือน มี.ค. ว่า รัฐบาลจีนถือหุ้นส่วนจำนวนหนึ่งในไบท์แดนซ์ บริษัทแม่ของติ๊กต็อก แต่บริษัทชี้แจงว่ารัฐบาลถือหุ้นเพียง 1% และไม่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจนอกประเทศจีน

2.ติ๊กต็อกเป็นเครื่องมือสร้างอิทธิพลต่อชาวอเมริกัน

เวรย์ บอกว่า การดำเนินธุรกิจในสหรัฐของติ๊กต็อก สร้างความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติ เพราะรัฐบาลจีนสามารถควบคุมและใช้ประโยชน์จากแอปฯ เพื่อสร้างอิทธิพลต่อผู้ใช้งานหรือควบคุมอุปกรณ์ โดยควบคุมข้อมูลของผู้ใช้งานหลายล้านคน หรือควบคุมการแนะนำของอัลกอริทึม

"พอล นานาโซน" ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ กังวลเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลของติ๊กต็อก เพราะอัลกอริทึมใช้เผยแพร่เนื้อหาต่าง ๆ สู่ผู้ใช้งาน มีอิทธิพลต่อผู้ใช้งานเชิงรุก และสามารถระงับการส่งข้อความในแอปฯได้

ขณะที่ติ๊กต็อกบอกว่า แอปฯไม่อนุญาตให้รัฐบาลใดสร้างอิทธิพลหรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบการแนะนำเนื้อหาต่าง ๆ ในแอป

3. ติ๊กต็อกสามารถส่งข้อมูลคนอเมริกันให้รัฐบาลจีน

ผู้บัญญัติกฎหมาย กล่าวหาว่า รัฐบาลจีนสามารถบังคับให้ไบท์แดนซ์แบ่งปันข้อมูลผู้ใช้งานได้ ภายใต้กฎหมายข่าวกรองแห่งชาติปี 2560 แต่แอปฯแย้งว่า ถ้าแอปฯใช้งานในรัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐเดลาแวร์ แอปฯก็อยู่ภายใต้กฎหมายและข้อกำหนดของสหรัฐได้เช่นกัน

ขณะเดียวกันประธานเจ้าหน้าที่บริหารติ๊กต็อก ออกมาย้ำแล้วย้ำเล่าว่า บริษัทไม่เคย และไม่มีทางเผยแพร่ข้อมูลผู้ใช้ให้กับรัฐบาลจีน

4.ติ๊กต็อกอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพจิตเด็ก

เมื่อเดือน มี.ค. 2565 8 รัฐในสหรัฐ ทั้งรัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐแมสซาชูเซตส์ ทำการตรวจสอบว่าติ๊กต็อกส่งผลกระทบต่อกายภาพและเป็นอันตรายต่อสุขภาพจิตวัยรุ่นอย่างไร โดยดูว่าแอปฯเพิ่มกลุ่มผู้ใช้งานที่มีอายุน้อยอย่างไร ทั้งการขยายเวลาใช้งานแอปฯ และดูว่าคนกลุ่มนี้ใช้แอปฯบ่อยมากเพียงใด

ติ๊กต็อกยืนยันว่า แอปฯดำเนินการหลายขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จะปลอดภัยและสนุกไปกับแอปฯ

5.ติ๊กต็อกสอดแนมนักข่าว

เมื่อเดือน ธ.ค. ไบท์แดนซ์รายงานว่ามีพนักงานบางคนเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานของนักข่าว 2 คน ที่เป็นอดีตนักข่าวของบัซฟีดและนักข่าวไฟแนนเชียลไทม์สโดยมิชอบ แต่ความพยายามตรวจสอบข้อมูลรั่วไหลและการหาจุดเชื่อมโยงระหว่างสองนักข่าวนั้นไม่สำเร็จ

หลังจากนั้นพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้ง 2 คนที่อยู่ในสหรัฐ และอีก 2 คนที่อยู่ในจีน ถูกไล่ออก