100 ปี ‘เฮนรี คิสซิงเจอร์’ ผู้พลิกโฉมสัมพันธ์สหรัฐ - จีน

100 ปี ‘เฮนรี คิสซิงเจอร์’ ผู้พลิกโฉมสัมพันธ์สหรัฐ - จีน

วันเสาร์ ที่ 27 พ.ค. นี้ เฮนรี คิสซิงเจอร์จะมีอายุ 100 ปี เขากำหนดนโยบายต่างประเทศสหรัฐมายาวนาน หลายนโยบายเป็นที่ถกเถียงกันมาก

คิสซิงเจอร์รับตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศรัฐบาลประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน และเจอรัลด์ ฟอร์ด สำนักข่าวเอเอฟพี รวบรวมช่วงเวลาสำคัญของเขา

จีน

คิสซิงเจอร์แอบบินไปปักกิ่งเงียบๆ เมื่อเดือนก.ค.1971 ในภารกิจสถาปนาความสัมพันธ์กับจีนคอมมิวนิสต์ ปูทางสู่การเยือนครั้งประวัติศาสตร์ของนิกสัน ผู้พยายามเปลี่ยนโฉมสงครามเย็น และหาทางช่วยปิดฉากสงครามเวียดนาม

การที่สหรัฐเปิดกว้างกับปักกิ่งที่แปลกแยกตัวเองในขณะนั้นเนื่องจากจีนผงาดขึ้นเตรียมเป็นมหาอำนาจด้านการผลิต และเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลกรองจากสหรัฐ

นับตั้งแต่พ้นตำแหน่ง คิสซิงเจอร์มั่งคั่งกับธุรกิจให้คำปรึกษาเกี่ยวกับจีน และเตือนไม่ให้สหรัฐใช้นโยบายสายเหยี่ยว

เวียดนาม

เพื่อให้การทำสงครามหายนะของสหรัฐในเวียดนามยุติลงอย่าง “มีเกียรติ” ตามความพยายามของนิกสัน คิสซิงเจอร์สั่งการลับๆ ให้ทิ้งระเบิดในกัมพูชา และเวียดนาม หวังตัดการส่งกำลังบำรุงของฮานอย นักประวัติศาสตร์บางคนประเมินว่า ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตหลายแสนคน

คิสซิงเจอร์ บรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับเวียดนามในเดือนม.ค.1973 ผ่านการเจรจาในกรุงปารีส เพื่อลดความเสียหายของสหรัฐให้น้อยที่สุด เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพร่วมกับเลอ ดึกโถ ของเวียดนามแต่เลอปฏิเสธรางวัล สองปีต่อมารัฐบาลเวียดนามใต้ที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐล่มสลายลง

รัฐประหาร

ด้วยเชื่อมั่นว่าการเผชิญหน้ากับสหภาพโซเวียตเป็นเรื่องใหญ่ คิสซิงเจอร์จึงอุทิศตัวโค่นล้มรัฐบาลที่มีแนวโน้มเอียงซ้าย ที่เห็นชัดๆ คือ ชิลี และอาร์เจนตินา

ในบันทึกลับที่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ได้แล้วชี้ให้เห็นการพิจารณาอย่างเย็นชาของคิสซิงเจอร์ เขากล่าวว่า ซัลวาดอร์ อัลเยนเด ประธานาธิบดีฝ่ายซ้ายของชิลีเสนอตัวแบบอันตราย ด้วยการแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลฝ่ายซ้ายที่มาจากการเลือกตั้งสามารถทำงานได้ จุดจบของอัลเยนเดคือ ฆ่าตัวตายเมื่อถูกทหารที่ซีไอเอหนุนหลังทำรัฐประหาร

การรุกราน

คิสซิงเจอร์ยังแสดงให้เห็นว่า ไม่ลังเลที่จะสนับสนุนการรุกรานหากเขามองว่าเพิ่มผลประโยชน์สหรัฐ ตอนที่ปากีสถานทำหน้าที่ประสานเรื่องจีนอย่างเงียบๆ เขาเสนอการคุ้มครองทางการทูตให้กับรัฐบาลอิสลามาบัดที่ระดมฆ่า และข่มขืนในปากีสถานตะวันออกที่ต่อมาประกาศเอกราชเป็นบังกลาเทศ

คิสซิงเจอร์ให้ไฟเขียวอินโดนีเซียพันธมิตรยุคสงครามเย็น ยึดติมอร์ตะวันออก เริ่มต้นการยึดครองอย่างกดขี่ 24 ปี

ทั้งยังสนับสนุนตุรกีโดยปริยาย ขณะยึดครองหนึ่งในสามของไซปรัสแสวงหาความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับประเทศที่วางยุทธศาสตร์ไว้ และรับรู้ถึงความสมดุลในการแข่งขันกับกรีซที่เป็นสมาชิกนาโต

คิสซิงเจอร์ยังนำสหรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับสงครามกลางเมืองของแองโกลาเพื่อรับมือโซเวียต และคิวบา

ตะวันออกกลาง

คิสซิงเจอร์อุทิศเวลามากมายให้กับตะวันกลาง ตั้งปฏิบัติการ Nickel Grass ส่งมอบอาวุธทางอากาศขนานใหญ่ให้กับอิสราเอล หลังหลายชาติอาหรับเปิดการโจมตีอย่างไม่คาดฝันในวันยมคิปปูร์ของชาวยิวในปี 1973

ต่อมาคิสซิงเจอร์ต้องไปๆ มาๆ เจรจากับอิสราเอล อียิปต์ และซีเรีย เกิดเป็นนิยาม “การทูตเดินสาย” (shuttle diplomacy) สิ่งที่ส่งผลต่อรัฐบาลมอสโกทันทีคือ คิสซิงเจอร์เปลี่ยนความสัมพันธ์กับอียิปต์ ประเทศอาหรับที่มีประชากรมากที่สุด ด้วยการทำให้อียิปต์เข้ามาเป็นพันธมิตรความมั่นคง และรับเงินช่วยเหลือจากสหรัฐ

 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์