นายกฯ ญี่ปุ่น เล็งใช้งบ 25,000 ล้านดอลล์ แก้วิกฤติอัตราการเกิดตกต่ำ
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยแผนงบประมาณ 25,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อวันพฤหัสบดี (1 พ.ค.) ใช้เป็นงบสนับสนุนคนรุ่นใหม่ และครอบครัว เพื่อกระตุ้นอัตราการเกิดของประเทศที่ตกต่ำ
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า เงินอุดหนุนก้อนใหญ่สำหรับผู้มีบุตร เงินช่วยเหลือด้านการศึกษา และการดูแลก่อนคลอดบุตร รวมถึงการสนับสนุนการทำงานที่ยืดหยุ่น และการลางานเพื่อดูแลบุตรของบิดา มีแนวโน้มที่จะได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลญี่ปุ่น
“ฟูมิโอะ คิชิดะ” นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวกับรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ผู้เชี่ยวชาญ และนักธุรกิจชั้นนำระหว่างการหารือประเด็นปัญหานี้ ว่า เขาเตรียมเสนอนโยบายรับมือกับอัตราการเกิดที่ตกต่ำโดยจะใช้งบประมาณจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เดินหน้าเพิ่มรายได้ให้คนหนุ่มสาว และกลุ่มคนที่ต้องเลี้ยงลูก
คิชิดะบอกว่า นโยบายกระตุ้นอัตราการเกิดต้องใช้งบประมาณราว 3.5 ล้านล้านเยน หรือ 25,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ในอีก 3 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการจัดหางบประมาณ แทนที่จะลดการใช้จ่ายอย่างอื่น และพัฒนาเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีประชากรสูงอายุมากที่สุดอันดับ 2 ของโลก รองจากประเทศเม็กซิโก และมีกฎคนเข้าเมืองค่อนข้างเข้มงวด แสดงให้เห็นว่า ประเทศประสบกับการขาดแคลนแรงงานมากขึ้น
ในปี 2565 ประเทศที่มีประชากร 125 ล้านคน แห่งนี้ มีจำนวนเด็กเกิดใหม่น้อยกว่า 800,000 คน ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้สูงอายุเพิ่มสูงขึ้น
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์